Rangeroverhouses.com Forum

"อีกหนึ่ง Premium SUV ชั้นนำของตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ในบ้านเรา สำหรับ LAND ROVER NEW FREELANDER ใหม่นี้ เป็นรถยนต์ในกลุ่ม SUV เพียงรุ่นเดียวที่ปราศจากคู่แข่งแบบตัวจริง ในคลาส Compact Premium SUV เป็นช่องว่างที่อยู่ตรงกึ่งกลาง กับราคาค่าตัวที่หลายคนมองว่าสูง แต่พอได้ สัมผัสถึงคุณค่าที่มีให้แล้ว คุณอาจเปลี่ยนใจ จากความนำสมัยของการดีไซน์ที่ปรับปรุง ใหม่มากกว่า 700 จุด จากรุ่นที่แล้ว แถมด้วยขุมพลังดีเซลคอมมอนเรลยุคใหม่ ประหยัด แรง แต่มลพิษ ต่ำ ระบบขับ เคลื่อนที่เหนือชั้นตามแบบฉบับ LAND ROVER นอกจากนั้นยังบรรจุระบบช่วยเหลือ การขับขี่ อย่างครบครัน

การปรับปรุงโฉมของ NEW FREELANDER เน้นความโดดเด่นและความมีสไตล์เฉพาะตัว และเพิ่มความปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นฐานหลักๆ ของโครงสร้างยังคงเดิมตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิด ตัว FREELANDER ในงาน แฟรงก์เฟิร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เมื่อช่วงกลางปี ค.ศ. 1997 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยครั้งแรก ในปี ค.ศ. 2001 ก่อนที่จะมาถึงในโฉม ปัจจุบัน โดย LAND ROVER เลือกเปิดตัว NEW FREELANDER ในงาน แฟรงก์เฟิร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2003 และต่อมาที่การเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เมื่อช่วงเดือนมีนาคมปีนี้ ที่ผ่านมานี่เองยังจำกันได้หรือเปล่า

      ข้อมูลที่ได้จาก LAND ROVER บอกว่า มีการปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ ของ NEW FREELANDER มากกว่า 700 รายการ จากรุ่นที่แล้ว โดยใช้งบลงทุนในการค้นคว้า วิจัย และพัฒนา ด้วยมูลค่าหลายล้านปอนด์ จึงทำให้มุมมองตั้งแต่หัวจรดท้ายมีความโดดเด่นน่าสนใจขึ้นมาก โดยเฉพาะชุดโคมไฟหน้าทรงกลมคู่ (Twin Pocket) โดดเด่น ให้ประสิทธิภาพการส่องสว่าง มากกว่าเดิมถึง 70% ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถูกถ่ายทอดมาจาก RANGE ROVER และ DISCOVERY ให้ความรู้สึกแกร่ง ดูเข้ากับเส้นสายของตัวถัง และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ในช่วง เวลากลางคืนได้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยไฟตัดหมอกทรงกลมที่ติดตั้งไว้ในกันชนหน้าตรงตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่รบกวนสายตารถยนต์คันอื่น

      ออกแบบกันชนหน้า และกระจังหน้าใหม่ทำจากวัสดุคุณภาพสูงด้วยโพลีคาร์บอเนตโพลีเมอร์ มีความยืดหยุ่นสูง ช่วงปลอดภัยเมื่อยามขับขี่ในเวลากลางคืน หรือในสถานการณ์ที่ทัศนวิสัยการขับขี่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็น ตอนฝนตกหนัก หรือหมอกลงจัด นอกจากนั้นยังใช้หลักอากาศพลศาสตร์แก้ไข ลดการสะสมของคราบสกปรกที่ลอยมาติดบนเลนส์ไฟท้าย ทำให้มองเห็นไฟสัญญาณได้ไม่ชัดเจน นอกจากนั้น ยังติดตั้งสัญญาณเตือนขณะถอยหลัง (Park Distance Control) ช่วยให้การจอดในที่แคบ และในที่ที่มีแสงสว่างน้อยได้อย่างง่ายดาย

      เพิ่มความเหนือชั้นในการขับขี่ ด้วยกระทะล้ออัลลอยด์ลายใหม่ ขอบ 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/55 R17 ซึ่งในรุ่นที่แล้วจะใช้กระทะล้อขนาด 16 นิ้วเท่านั้น

ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่หมด เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ออกแบบ และ จัดวางอุปกรณ์ได้อย่างเหมาะสม และใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า วัสดุที่นำมาใช้กับ NEW FREELANDER มีคุณภาพเหนือกว่ารถที่ผลิตในประเทศด้วยกัน แผงหน้าป'ดแบบใหม่ ลายโครโนกราฟิก ดูหรูหรา ทันสมัย มากขึ้น พร้อมการตกแต่งภายในที่ถือว่าเป็นเทรนด์ใหม่ด้วยสีแชมเปญโกลด์

      ออกแบบแผงคอนโซลเกียร์ใหม่ แบบ Shifter Bezel ดูสปอร์ต พร้อมบรรจุไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ง่ายต่อการมองเห็น สวิตช์ควบคุมต่างๆ ลงตัว เป็นระเบียบ ง่ายต่อการใช้งาน ส่วนเบาะนั่งทำจาก หนังแท้ออกแบบโดยหลักสรีรศาสตร์ ให้ความรู้สึกสบาย ลดอาการเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ช่วยผ่อนคลายแม้ขับขี่ในระยะทางไกลติดต่อกันเป็นเวลานาน นอกจากนั้นเบาะนั่งด้านหลังสามารถ ปรับแยกพับแบบ 60/40 หรือพับเบาะแบนราบได้ทั้งหมด เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังได้มากขึ้น ช่วยให้ NEW FREELANDER เป็นรถ Compact Premium SUV ที่มีประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่ามากที่สุดรุ่นหนึ่ง

  มาทันตามความเรียกร้อง จึงได้เห็น NEW FRELANDER จับคู่กับเครื่องยนต์ดีเซลเทคโลโลยี ล่าสุด "ดีเซลคอมมอนเรลและเทอร์โบแปรผัน" จึงกลายมาเป็น Td4 ที่มีสมรรถนะโดดเด่นไม่ต่างจาก เครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุสูง แต่สิ่งที่ Td4 มีให้มากกว่านั่นก็คือความประหยัด

       ขุมพลังรหัส M47 มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่ยืมมาจาก BMW โดยที่เครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ ออกแบบฝาสูบทำจากอะลูมินัมอัลลอยด์น้ำหนักเบา ระบาย ความร้อนดีเยี่ยม กลไกขับวาล์วด้วยสายพาน แบบ DOHC-16Valve ขนาดความจุเพียง 2.0 ลิตร แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 112 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 26.5 กก-ม. จากระบบการควบคุม และสั่ง จ่ายเชื้อเพลิงที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์จาก BOSCH ร่วมกับเทคโนโลยีเทอร์โบแปรผัน (Variable Nozzle Turbine) หรือ VNT โดยใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์จากค่าย GARRETT รหัส M53 GT 17 49V เลือกใช้ค่า A/R .45

      ส่วนเกียร์มาแบบอัตโนมัติ 5 จังหวะ จาก JATCO ผู้ผลิตเกียร์รายใหญ่ในเครือ MITSUBISHI ของญี่ปุ่นที่ควบคุมพฤติกรรมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถปรับโหมดการทำงานได ้ทั้งแบบอัตโนมัติ และชิฟท์เกียร์เองแบบ CommandShift ส่งถ่ายกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบถาวรตลอดเวลา (Permanent 4WD) ให้สมรรถนะเยี่ยม ตอบสนองได้ดีทั้งทาง ON ROAD และผิวทาง OFF ROAD สามารถปรับแรงบิดกระจายสู่ล้อหน้า และหลังได้อย่างเหมาะสม โดยเมื่อล้อล้อหน้าเกิดการลื่นไถล หรือสูญเสียการควบคุม Viscous Coupling หรือ VCU จะช่วย ส่งถ่ายแรงบิดไปยังล้อหลังทันทีโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่าย และปลอดภัยมากขึ้น

      ยังมีระบบ ETC (Electronic Traction Control) ช่วยควบคุมล้อทั้ง 4 ให้สามารถยึดเกาะถนนตลอดเวลา และเพิ่มระบบ HDC (Hill Descent Control) ให้ความปลอดภัยในการขับขี่ลง ทางลาดชัน เอกสิทธิ์เฉพาะ LAND ROVER โดยทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS รวมทั้งเครื่องยนต์ และเกียร์อัตโนมัติ ได้อย่างสัมพันธ์กัน

 อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ NEW FREELANDER ทดสอบระหว่างเดินทางจากกรุงเทพฯ เข้าสู่สนามทดสอบในเขต อ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองนอกเมืองในช่วงเวลา 10.00 น. กับระยะทางที่ทดสอบ 100 กม. ใช้ความเร็วเดินทางเฉลี่ย 120-140 กม./ชม. สภาพการจราจร ค่อนข้างโล่ง บางช่วงทำความเร็วได้ อัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้ถึง 15.2 กม./ลิตร แม้จะลากตัวถังหนัก กว่า 1.6 ตัน ก็ตาม

      ทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมือง NEW FREELANDER ทำได้ในระดับที่น่าพอใจ แม้วันที่ ทดสอบสภาพการจราจรจะค่อนข้างสาหัส เนื่องจากมีฝนตก โดยทดสอบบนถนนเขตใจกลางกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาเร่งด่วน อัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้ 7.10 กม./ลิตร ถือว่าเครื่องยนต์รหัส M47 จากค่าย BMW นี้มีอัตราการสิ้นเปลืองที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับสภาพการจราจร ในขณะที่การทดสอบอัตราสิ้น เปลืองสูงสุดภายในสนามทดสอบอยู่ที่ 5.25 กม./ลิตร ถือว่าผลงานที่ทำได้น่าพอใจทีเดียว


Disturb Noise Tested
"เก็บเสียงแบบฉบับผู้ดี"             หลายคนกังวลเรื่องคุณภาพวัสดุที่นำมาใช้สำหรับรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ เมื่อเทียบกับ รถรุ่นเดียวกันที่ประกอบในยุโรป แต่เมื่อดูผลการทดสอบเสียงรบกวนของ NEW FREELANDER กลับทำได้ดี โดยในรอบเครื่องยนต์เดินเบา เมื่อปิดกระจกทุกบาน และปิดเครื่องปรับอากาศ ระดับของ เสียงจะอยู่ที่ 59.7 dB (A) ถือว่าเป็นเสียงรบกวนที่ค่อนข้างต่ำ แม้โดยปกติเครื่องยนต์ดีเซลระบบไดเร็กอินเจ็กชั่น จะมีเสียงการทำงานที่ดัง แต่เมื่อนั่งอยู่ในห้องโดยสาร เสียงรบกวนจะถูกดูดซับ ลงไปมาก

      ในขณะที่เสียงรบกวนสูงสุดของ NEW FREELANDER ทำได้เท่ากับ 73.6 dB (A) ขณะทดสอบอัตราเร่งระยะ 1,000 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์กลุ่ม SUV หลายคันที่ผ่านมา นอก จากนั้นภายในสนามทดสอบไทยบริดจสโตน ยังจำลองรูปแบบถนนที่ชำรุดในเมืองไทย เราเลยจับ NEW FREELANDER มาพิสูจน์ โดยการขับผ่านผิวทางคอนกรีตที่แตกร้าว และปะซ่อมแซม ใช้ความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. จับเสียงดังที่เกิดขึ้นได้ 79.3 dB (A) ซึ่งถือว่าการเก็บเสียงของ NEW FREELANDER อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ นอกจากนั้นยังต้องยกเครดิตให้กับยางที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดี

Acceleration Tested
"VNG TURBO เรียกทอร์คได้ทันใจ"

      อัตราเร่งที่ได้จากเครื่องยนต์รหัส M47 น่าพอใจทีเดียว แม้จะไม่รุนแรง หนักหน่วง แต่กำลังที่ได้ จากเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเพียง 2.0 ลิตร ที่ได้รับก็ถือว่าคุ้มค่า และยังสามารถ เรียกใช้แรงบิดได้อย่างรวดเร็ว ทันใจอีกด้วย มาจากเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน โดยจะใช้ครีบ (Vane) ที่ติดตั้งในโข่งไอเสีย ช่วยรีดไอเสียให้ผลักดันเทอร์ไบน์อย่างรวดเร็ว จึงทำให้เทอร์โบบูสต์แรง ดันเสริมอย่างรวดเร็ว และโครงสร้างของครีบจะเปลี่ยนแปลงในรอบสูง เพื่อให้การคายไอเสีย เป็นไปอย่างรวดเร็ว แรงบิดจึงมาเร็ว ทันทีที่เหยียบคันเร่ง

      โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 14.19 วินาที ที่ระยะทาง 245.3 เมตร ในขณะที่อัตราเร่งในระยะควอเตอร์ไมล์ใช้เวลาไป 19.00 วินาที พอดี ที่ความเร็ว 119.5 กม/ชม. ในขณะความเร็วสูงสุดของ NEW FREELANDER ที่ทำได้เกือบ 170 กม./ชม. ที่สามารถทำได้ในระยะทาง 1,000 เมตร


"EBD กระจายแรงเบรก แม่นยำ ฉับไว"

       เช่นเดียวกับ SUV ชั้นเยี่ยมหลายคัน ระบบเบรก ของ NEW FREELANDER ออกแบบมารอง รับการใช้งานได้ดีในทุกรูปแบบเส้นทาง โดยด้านหน้าใช้ดิสก์เบรกขนาดใหญ่ถึง 276 มม. ด้านหลังเป็น ดรัมเบรกขนาด 254 มม. ใช้ระบบ ABS ทั้งระบบจาก ATE ที่มาพร้อมกับหน่วยกระจายแรงเบรก (EBD)

Specifications Data: LAND ROVER FREELANDER Td4 HSE 
 ประเภทรถยนต์ 5 ที่นั่ง (SUV: Sport Utility Vehicle)
 เครื่องยนต์   
 แบบ ดีเซล ไดเร็กอินเจ็กชั่น แถวเรียง 4 สูบ 2.0 ลิตร DOHC-16 Valve พร้อม เทอร์โบชาร์จเจอร์แปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์
 ปริมาตรกระบอกสูบ (ซี.ซี.) 1,951
 ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ดีเซลคอมมอนเรล ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ของ BOSCH
 กำลังสูงสุด 82 KW. (112PS) @4,000 rpm
 แรงบิดสูงสุด 260 N-m @ 1,750 rpm
 ความเร็วสูงสุด 170 km/h
 ระบบส่งกำลัง   
 แบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อถาวรตลอดเวลา (Permanent 4WD)
 เกียร์ อัตโนมัติ 5 จังหวะ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ Auto 5 Speed Command Shift หลายโหมดการทำงาน
 อัตราทดเฟืองท้าย 2,91
 ระบบบังคับเลี้ยว   
 ชนิด แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมเพาเวอร์
 ระบบกันสะเทือน   
 หน้า อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัทโช๊คอัพแก๊สและสปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
 หลัง อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัทโช๊คอัพแก๊สและสปริง ร่วมกับ Trapezoidal
 ระบบเบรก   
 หน้า ดิสก์เบรกพร้อมรูระบายความร้อนขนาด 277 มม.
 หลัง ดรัมเบรกขนาด 254 มม.
 

เล่นน้ำ อย่างเริงร่า   ;D
ว่าแต่มันลงไปครึ่งคัน  แล้วมันจะขึ้นมาได้มั้นเนี่ย ???

 ???แล้วมันลงไปได้ยังงัยเนี้ยงงๆ

ไม่ต้อง งู 2 ตัว   ไว้เอาเจ้า 1221 คันสีบรอนท์ ไปอาบน้ำดูบ้างก็ได้  แล้วดูซิ  ว่ามันจะขึ้นมาได้ไหม ;D

ขอบคุณครับ
 ได้รมจัง