Rangeroverhouses.com Forum

Range Rover House => กลุ่มคนรักษ์เร้นจ์ Range Rover Mania => ข้อความที่เริ่มโดย: Webmaster ที่ มกราคม 19, 2009, 01:51:17 PM



หัวข้อ: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: Webmaster ที่ มกราคม 19, 2009, 01:51:17 PM
ในกระทู้นี้ คนรักษ์เร้นจ์จะนำปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับเจ้าเร้นจ์โรเวอร์ของเรามาเล่าสู่กันฟัง และถามตอบปัญหาที่เพื่อนสมาชิกอยากจะรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเร้นจ์โรเวอร์ของเรา    อันดับแรกเลยเมื่อคิดจะซื้อรถเร้นจ์โรเวอร์มาใช้สักคันนึง ต้องเลือกเฟ้นหาให้ได้รถที่ดีที่สุดแล้วท่านจะไม่ปวดหัวกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นมาในอนาคตเมื่อเขามาอยู่กับเรา แทนที่เราซื้อมาจะได้ใช้เขาอย่างสุขกายสบายใจแต่ต้องกลับมาทนทุกข์ระทมใจกับการที่จะต้องนำเจ้าเร้นจ์โรเวอร์เข้า ๆ ออก ๆ อู่เป็นประจำ หลังจากนั้นไม่นานท่านก็จะหมดความอดทนที่จะใช้อยู่ต่อไป เสียทั้งเงินทองที่จะซ่อมแซมดูแลเสียทั้งสุขภาพจิตเสียทั้งเวลา  เนื่องมาจากอายุอานามของเจ้าเร้นจ์โรเวอร์ก็มากโขอยู่ นับจากปี 1995 มาก็ประมาณ  13 ปี กว่า ๆ เองครับ ดังนั้นชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ก็หมดอายุไปบ้างแล้วหลายๆ อย่าง ยกตัวอย่างเช่น facia หน้ารถ รวมถึงพลาสติกทุกชิ้นที่อยู่ในรถรุ่นนี้ก็หมดอายุเช่นกัน เพราะว่ารถในยุโรปที่ผลิตตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา พลาสติกทุกชิ้นเป็นชิ้นส่วนที่ย่อยสลายได้ คุยมาซะนานเข้าเรื่องต่อดีกว่าครับ การเลือกรถให้ได้ดีและอยู่กับเรานาน ๆ มีวิการดูอยู่หฃายวิธีแล้วแต่ความชำนาญของแต่ละบุคคล แต่ทางผมเองขอแบ่งตามความสำคัญมากน้อยตามลำดับดังนี้
     +  เครื่องยนต์
         ช่วงล่าง เบรค ล้อ
         อุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนควบ
         ภายใน
         ภายนอก
รถเร้นจ์โรเวอร์ในเมืองไทยในเวลานี้ โดยปกติทั่วไปเลขกิโลเมตรจะอยู่ที่ประมาณ แสนกิโลเมตรจนถึงสองแสนกิโลเมตร ดังนั้นการได้รถมือสองมาจึงต้องมีงบประมาณอีกประมาณสองแสนบาทที่จะทำการซ่อมแซมเขาให้ได้ดีดังเดิม ยกตัวอย่างเช่น มีรถวางขายอยู่ในตลาด ๒ คันให้เลือก คันแรกสภาพสมบูรณ์เพอรืเฟค ราคาสูงพอสมควร คันที่สองสภาพปานกลางต้องปรับปรุงอีกหลายหมากกะตังค์ ถามใจท่านว่าท่านจะเลือกคันไหนเป็นอันดับแรก  ถูกต้องทุกคนต้องเลือกคันแรกแน่นอน แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างทำให้ท่านอาจจะต้องตัดสินใจเลือกคันที่สองมาก็เป็นไปได้ด้วยเหตุผลอื่นประกอบ  นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ท่านต้องปวดหัวหลังจากซื้อรถมาแล้ว เพราะค่าบำรุงรักษามากมายที่เกิดขึ้นอาจจะมากกว่าท่านซื้อคันแรกด้วยซ้ำไป ดังนั้น การซื้อรถมือสองมาอันดับแรกควรเลือกซื้อรถที่สมบูรณ์ที่สุดและดีที่สุดครับ ส่วนท่านที่คิดว่าซื้อมาแล้วขับไปซ่อมไปนั้นต้องขอชี้แจงให้ทราบว่ารถเร้นจ์โรเวอร์นันไม่ใช่รถญี่ปุ่นครับที่จะทำแบบนั้นได้ เขาจะสร้างปัญหาให้กับท่านได้ไม่เว้นแต่ละวันเชียวแหละ บางครั้งความไม่เข้าใจในตัวรถก็ทำให้เกิดปัญหาได้เหมือนกัน สมุดคู่มือประจำรถก็ไม่เคยอ่านไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปุ่มนี้มีไว้ใช้ทำอะไร เพื่ออะไร นึกจะกดก็กด นึกจเข้าก็เข้า บางทีกดเข้าไปแล้วออกมาก็ต้องเสียเงินหมื่นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เรามาคุยกันต่อจากเมื่อวานนี้ ก็คืออันดับแรกจะต้องรู้จักกับรถให้ดีที่สุด ขอบอกเลยว่าเร้นจ์โรเวอร์ไม่ใช่รถที่จอด ๕ วันแล้วใช้ในวันหยุดเพียง ๑ หรือ ๒ วัน เร้นจ์โรเวอร์ต้องใช้อย่าง่ต่อเนื่องแทบจะทุกวันก็ว่าได้ ถ้ารถสุขภาพดีเราก็จะเพลิดเพลินกับการขับขี่ ฉะนั้นการดูแลรถให้ได้ดีก็ต้องทำและปฏิบัติตามที่โรงงานผู้ผลิตกำหนด

การตรวจเช็คระยะของเร้นจ์โรเวอร์

0 - 5000  กิโลเมตร  ทุก ๆ 5000 กิโลเมตร

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง  กรองน้ำมันเครื่อง  (ในกรณีที่ใช้น้ำมันเครื่อง  semi synthetic)


5000 - 10000  กิโลเมตร  30000 50000 70000 90000 110000 130000 150000

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง  กรองน้ำมันเครื่อง   (ในกรณีที่ใช้น้ำมันเครื่อง fully synthetic)

20000  กิโลเมตร  60000 100000 140000

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง  กรองน้ำมันเครื่อง
กรองอากาศ
หัวเทียน 8 หัว
น้ำมันเกียร์เมน น้ำมันเกียร์พ่วง
ไส้กรองอากาศ  inlet exhaust ของระบบ airsuspension
ไส้กรองอากาศภายนอก  pollen filter  2 ตัว

30000  กิโลเมตร  50000 70000 90000 100000 110000 130000 150000 170000

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง  กรองน้ำมันเครื่อง

40000  กิโลเมตร  80000 120000 160000 200000

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง  กรองเครื่อง
เปลี่ยนกรองอากาศ
กรองน้ำมันเบนซิน
หัวเทียน  8 หัว
สายพานหน้าเครื่อง
น้ำมันเบรค
น้ำมันเกียร์เมน เกียร์พ่วง
น้ำยาหม้อน้ำ
ไส้กรองอากาศภายนอก  pollen filter 2 ตัว
ไส้กรองอากาศของระบบ air suspension  inlet exhaust  2 ตัว
ไส้กรองน้ำมันเกียร์เมน ปะเก็นอ่างน้ำมันเกียร์
น้ำมันเฟืองท้ายตัวหน้า  น้ำมันเฟืองท้ายตัวหลัง
น้ำมันกระปุกพวงมาลัยเพาเวอร์

ตอนนี้ท่านได้ทราบแล้วว่าการตรวจเช็คระยะในแต่ละระยะสำคัญแค่ไหน บางท่านอาจจะไม่เคยทราบเลยก็ได้เพราะเมื่อถึงกำหนดเวลาศูนย์บริการจะเป็นผู้เช็คระยะให้กับท่าน แต่หากรถหมดระยะประกันแล้วท่านเท่านั้นที่จะต้องรู้และต้องเปลี่ยนถ่ายตามระยะที่ทางโรงงานผู้ผลิตกำหนด และเมื่อท่านได้ปฏิบัติเช่นนี้แล้วจะทำให้รถของท่านสมบูรณ์ทีเดียว จะไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจอะไรต่าง ๆ มากนัก ถ้าท่านซื้อรถมือสองมาก็ควรถามเจ้าของเดิมว่าทำอะไรมาบ้างแล้วเพื่อที่เราจะได้ดูแลต่อไป แต่ถ้าท่านไม่มีข้อมูลมาเลยก็ควรจะเปลี่ยนของเหลวทุกชนิดและ กรองอากาศทุกตัวไปเลยจะดีกว่า

ถ้าดูตามตารางแล้วจะเห็นได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องเปลี่ยนถ่ายก็คือน้ำมันเครื่องยนต์นั่นเอง ต้องเปลี่ยนทุกระยะเลย ดังนั้นท่านต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นกรณีพิเศษอย่าคิดว่าใช้ได้ใช้ไปก่อน ควรมีการจดบันทึกทุกครั้ง  ถ้าท่านไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะก็จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ เกิดปัญหาเสียงดังในเครื่องยนต์ กินน้ำมันเครื่อง ควันขาว วิ่งไม่ออก เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์สั่น ดังนั้นควรให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1

ในเมื่อพูดถึงเรื่องเครื่องยนต์มาถึงตอนนี้แล้วก็จะพูดถึงปัญหาที่เกิดกับเครื่องยนต์ไปซะทีเดียวเลยดีกว่า เครื่องยนต์ของเร้นจืโรเวอรฺเป็นเครื่องยนต์ บล็อค v  เสื้อสูบและฝาสูบเป็น aluminium alloy ดังนั้นจึงทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้มีน้ำหนักเบาขึ้น ระบายความร้อนได้ดีขึ้น แต่สิ่งที่ตามมาอีกก็คือเมื่อเครื่องยนต์ overheat ก็จะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ง่ายขึ้น  เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราก็ควรจะต้องดูแลรักษาเจ้าเร้นจ์โรเวอร์ของเราไม่ให้มีปัญหากับเรื่องความร้อน และท่านที่กำลังจะซื้อรถ ก็ควรจะเลือกรถที่มีเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์ 100  มาใช้จะได้ไม่สร้างปัญหาปวดหัวให้กับท่านเมื่อนำมาใช้งาน

ปัญหาที่พบบ่อย ๆ ในเร้นจ์โรเวอร์
เครื่องยนต์ overheat                                                                             
หม้อน้ำรั้วซึม
ตาน้ำรั่ว ซึม
น้ำมันเครื่องรั่วซึม น้ำมันเครื่องหายต้องเติมทุกเช้า
น้ำหล่อเย็นหาย ต้องเติมทุกเช้า
เสียงดังที่วาล์ว
เสียงดังที่ลูกสูบกับกระบอกสูบ
เสียงดังจากสลักลูกสูบ
เสียงดังจากโซ่ timimg
ปั้มน้ำเสียงดัง
สายพานดัง
ปั้มเพาเวอร์พวงมาลัยดัง
คอมเพรสเซอร์แอร์ดัง
ไดชาร์จลูกปืนหอนดัง
ลูกรอกหน้าเครื่องดังทั้ง 2 ตัว
เครื่องยนต์เดินเบาดับ
เครื่องยนต์เดินเบารอบสวิงไม่นิ่ง
เครื่องยนต์เดินไม่ครบสูบ
เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง
เครื่องยนต์ควันขาว
เครื่องยนต์ควันดำ
สตาร์ทเครื่องติดแล้วสั่นดับ
เครื่องยนต์กินน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ
สตาร์ทไม่ติด
สตาร์ทติดยากเวลาเช้า
สตาร์ทไม่ติดเวฃาเครื่องยนต์ร้อน
วิ่งไปแล้วดับพอทิ้งให้เครื่องยนต์เย็นแล้วติด
วิ่งไปดีดี พอฝนตกเครื่องยนต์ดับไปเลย
ecu ควบคุมระบบเครื่องยนต์เสีย
หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงรั่ว
coil จุดระเบิเสีย
สายหัวเทียนชำรุด
oxygensensor เสีย
catalytic หมดอายุ (ตัวกรองไอเสีย)
ปะเก็นฝาสูบแตกร้าว
เสื้อสูบชำรุด
ฝาสูบร้าว
ปลอกวาล์วหลวม
สายไฟห้องเครื่องหมดอายุ
ปั้มน้ำมันเครื่องหลวม
โซ่ราวลิ้นหย่อน
ซัล ปะเก็นรอบเครื่องหมดอายุ
ท่อน้ำหมดอายุ
ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงเสีย

ในระบบเครื่องยนต์ที่พบยังมีอีกมากมายในรายละเอียดในแต่ละปัญหาอยู่ที่ว่าปัญหาที่เกิดขี้นนั้นจะถูกค้นพบเร็วหรือช้าเท่านั้น ถ้าถูกค้นพบช้าเราก็จะเสียเงินกับการซ่อมที่ไม่ถูกจุดจะต้องเข้าและออกอู่หรือศูนย์บริการเป็นประจำทำให้เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา ทั้ง ๆ ที่ปัญหาบางอย่างเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าท่านได้ช่างที่ชำนาญงานวิเคราะห์งานได้ขาด การซ่อมรถก็เหมือนเราไปหาหมอเวลาเราไม่สบาย ถ้าเราไปหาหมอที่เรารักษาอยู่ประจำหมอก็จะรู้ประวัติของเราสามารถให้ยาหรือวิเคราะห์โรคได้ตรงหรือใกล้เคียงกว่าหมอที่เราไม่เคยไปหา หรือไปหาครั้งแรก อาจจะรักษาไม่ตรงจุดหรือไม่หายขาด ดังนั้นขอแนะนำว่าท่านควรนำรถเร้นจ์โรเวอร์ของท่านซ่อมที่ใดที่หนึ่งโดยตลอดจะดีกว่า ท่านเข้า ๆ ออก ๆ กับทุก ๆ อู่แล้วท่านจะปวดหัวไม่รู้จบกับเจ้าเร้นจ์โรเวอร์นี้ อีกประการหนึ่งอยากทำความเข้าใจกับท่านที่มีรถเร้นจ์โรเวอร์อยู่แล้วหรือกำลังจะมี อยากให้ท่านเข้าใจว่ารถเร้นจ์โรเวอร์ราคาเวลานี้ประมาณหกแสนบาทบวกลบ แต่ราคาอะหลั่ยยังคงอยู่ที่สี่ล้านสามแสนนะครับราคาอะหลั่ยไม่ได้ลดลงมาตามราคาตัวรถ ดังนั้นเวลาซ่อมอาจจะใช้เงินมากกว่ารถุญี่ปุ่นนะครับ




หัวข้อ: Re: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: Webmaster ที่ มกราคม 19, 2009, 01:51:37 PM
อยากรู้ว่าต้องระวังอะไรบ้างเป็นพิเศษครับ
         เครื่องยนต์
         ช่วงล่าง เบรค ล้อ
         อุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนควบ
         ภายใน
         ภายนอก
แล้วเกียร์ เฟื่องท้าย  ล้อ?    เราสามารถใช้ต่างขนาดได้ไหม เช่น ตอนนี้ผมใช้ 265 16 70 ทั้ง 4 ล้อ แต่ถ้ามีล้อใดล้อหนึ่งผมไปใช้ 275 16 70 จะได้ไหมครับ 



หัวข้อ: Re: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: Webmaster ที่ มกราคม 19, 2009, 01:52:00 PM
เป็นคำถามที่ดีมากครับ สำหรับท่านที่ไม่รู้ถ้าเกิดในกรณีนี้ยางเกิดแตกแล้วไม่มี่ยางขนาดเดียวกัน ถ้าใส่แล้วเสียเงินแน่นอน เกียร์สโลว์พังครับขนาดยางที่คุณยกตัวอย่างมาดูเหมือนจะเท่ากัน แต่ในความเป็นจริงไม่เท่ากันครับ เนื่องจากเจ้าเร้นจ์โรเวอร์ของเราขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่ง hi หรือตำแหน่ง low ก็จะขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวรลาครับ

และที่คุณถามมาว่าต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ ขอตอบได้เลยว่าต้องระวังเจ้าของรถที่ใช้รถโดยที่ไม่ศึกษาจาก manual ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน ยกตัวอย่างเช่น remote หรือกุญแจรถ คุณรู้หรือไม่ว่ามันเป็นได้มากกว่า remote  การเข้าเกียร์สโลว์ การบำรุงรักษารถอย่างถูกต้องตามที่โรงงานผู้ผลิตแจ้งมา มีสิ่งที่ต้องระวังอีกมากมาย แล้วจะมาคุยกันอีกนะครับ ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: Webmaster ที่ มกราคม 19, 2009, 01:52:32 PM
หลังจากที่อ่านบทความของคุณ คนรักษ์เร้นจ์แล้ว ผมเลยลองทำขึ้นมาให้เพื่อน ๆ ในนี้ครับ


หัวข้อ: Re: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: Webmaster ที่ มกราคม 19, 2009, 01:53:00 PM
ขอบคุณคุณ tong 2518 ครับที่ช่วยพี่ทำให้อ่านง่ายเข้าใจง่าย ขอบคุณมาก ๆๆๆๆ ต้องขอออกตัวก่อนว่าพี่ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ ทุกวันนนี้จะเขียนในแต่ละครั้งยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากเลยครับ แต่ด้วยใจรักที่จะทำก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด มีอยู่นิดนึงนะครับน้ำมันเครื่องและกรองเครื่องต้องเปลี่ยนทุกระยะครับ ช่วยแก้ให้พี่นิดนึงครับ กรองอากาศ หัวเทียน ทุก 20000 กมครับ น้ำมันเกียร์เมน เกียร์พ่วง ทุก 20000 เช่นกันครับ
 


หัวข้อ: Re: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: Webmaster ที่ มกราคม 19, 2009, 01:53:22 PM
อีกนิดนึงครับคุณต้องช่วยแก้ไขรายการที่ 10  11 ให้พี่อีกนิดเพราะสองรายการนี้เปลี่ยนที่ 40000 กม ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: คนรักษ์เร้นจ์ ที่ พฤศจิกายน 09, 2009, 09:10:33 PM
หายไปนานเหมือนกันวันนี้จะเริ่มเขียนไปเรื่อย ๆ เราได้คุยกันถึงเรื่องเครื่องยนต์ไปบ้างพอสมควรแล้วกับปัญหาที่มีอยู่ในเครื่องยนต์ ยังมีปัญหาที่เกี่ยวกับระบบ electronics อีกมากมายถ้านำมาเขียนคงจะต้องคุยกันนานหน่อย เพราะว่าในเรื่องระบบนั้นถ้าท่านไม่มีความรู้ด้านเครื่องจักรเครื่องยนต์มาเลยก็คงจะเข้ารใจลำบาก เอาเป็นว่าปัญที่เกี่ยวกับระบบ electronics ถ้าท่านผู้ใดมีหรือพบปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ก็ลองเขียนมาคุยกันดู ถ้าหากว่าผู้เขียนพอจะอธิบายให้ได้ก็จะอธิบายให้ในกระทู้นี้


หัวข้อ: Re: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: T_T ที่ เมษายน 11, 2011, 10:07:15 AM
ช่วงนี้เปลี่ยนคอยล์ไปหลายตัวเลยพี่  ก็อายุรถมันก็สิบห้าปีแล้วนิ  แก๊สก็แบ็คบ่อยจนต้องเปลี่ยนเป็นหัวฉีดเลย


หัวข้อ: Re: ปัญหา 108 1009 กับเร้นจ์โรเวอร์ 4.6hse
เริ่มหัวข้อโดย: คนรักษ์เร้นจ์ ที่ สิงหาคม 19, 2011, 08:37:55 PM
กำลังมาแล้วครับรออีกนิดครับกำลังเรียบเรียงข้อมูลอยู่ครับ