rover
Newbie
กระทู้: 21
|
|
« เมื่อ: มิถุนายน 16, 2009, 12:20:30 AM » |
|
1.ถ้าเอาถุงลมออกแล้วเปลี่ยนเป็นสปริงจะยุ่งยากมั้ยครับ.... 2.ถ้าไม่ยุ่งยาก..เราจะต้องไปหาซื้อสปริงที่ไหนได้ครับ.... 3.สปริงที่ซื้อมีกี่ยี่ห้อแล้วยี่ห้อไหนดีที่สุดและมีแบบตรงรุ่นหรือป่าวครับ.... 4.ความสูงของสปริงสามารถเลือกซื้อได้หรือมั้ยครับ.... ....ขอบคุณครับ......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
classic
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2009, 07:50:42 AM » |
|
ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคับที่ได้นังอ้วนมาแล้ว ต่อนี้ไปก็ต้องดูแลกันไป เอ้ามาว่ากันในเรื่องของระบบถุงลมที่คุณถามมาว่าเปลี่ยนเป็น coil spring แล้วจะมีความยุ่งยากหรือไม่ ขอตอบเลยละกันเปลี่ยนได้เลยครับไม่ยุ่งยากมากมายอย่างที่คิด เปลี่ยน coil spring 4 ตัว shockabsorber อีก 4 ตัว ตัวตัดสัญญาณ eas fault slow 35 maxkm/hr แค่นี้ก็จบครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
classic
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2009, 07:55:11 AM » |
|
ส่วนที่ถามว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน ตอนนี้มีอยู่มากมายหลายค่ายครับ ทั้ง อเมริกัน อังกฤษ ออสเตรเลีย แล้วแต่ว่าจะเลือกค่ายไหนตามความต้องการว่าต้องการความนุ่มนวลระดับใด ส่วนมากแล้วจะออกมาในแนวกระด้างซะมากกว่า ถ้าจะเอานุ่มนวลแต่ก็จะมากเกินไปก็ coil discovery l คู่หน้า หรือแข็งขึ้นมานิด ก็ defender ก็ได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
classic
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2009, 07:59:43 AM » |
|
ส่วนที่ถามว่ามีกี่ยี่ห้อนั้น ต้องเรียนกันตรง ๆ เลยว่ามีหลายยี่ห้อครับ ผมเองไม่ได้สำรวจตลาดคงต้องรบกวนพี่ ๆ น้อง ๆ ช่วยด้วยครับ และที่ถามว่ามีแบบตรงรุ่นไม๊ มีตรงรุ่นเป๊ะเลยครับพร้อมตัวตัดสัญญาณ สนนราคาประมาณ 30000 บาท (บวก ลบ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
classic
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2009, 08:04:28 AM » |
|
ในเรื่องความสูงของสปริงนั้น โดยทั่วไปแล้วจะจัดให้อยู่ในตำแหน่ง standard นะครับ ถ้าต้องการสูงมากกว่านี้อาจจะต้องรอง spacer เพิ่มขึ้นอีก แต่ก็จะมีผลเสียมากกว่าผลดีก็คือ ในเมื่อตัวรถสูงขึ้นการทรงตัวในความเร็วสูงไม่ดี เพลากลางไม่ได้ศูนย์จะสั่นกระพรือ shockabsorber อายุใช้งานจะน้อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Webmaster
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2009, 10:33:01 AM » |
|
แล้วของเก่าเอามาขายได้ไหมครับ ได้เท่าไร ปล. ถามเผื่อเจ้าของรถครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หน้าตาไม่เกี่ยว...อาศัยที่ปลี่ยว..และกำลัง
.......ดิ้นต่อยท้อง......ร้องต่อยปาก
|
|
|
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
กระทู้: 553
รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2009, 01:00:52 PM » |
|
ของเก่าที่ถอดออกมาแล้วก็พอขายได้ครับ แล้วแต่สภาพ แต่ส่วนมากที่เปลี่ยน coil spring ส่วนมากก็อาการหนักครับส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับคนขายกับคนซื้อครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
|
|
|
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
กระทู้: 553
รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2009, 09:54:04 PM » |
|
ทำไมรถที่เปลี่ยนจากถุงลมเป็น coil spring แล้วยังมีออกมาขายกันเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ประหยัดในเรื่อง service maintenance ไปได้มากแล้ว ถ้ากล่าวกันทั่ว ๆ ไปเลยก็คือในระบบ eas ( electronic air suspension) ในระบบหลัก ๆ ก็จะประกอบไปด้วย 1 ถุงลม 4 ลูก 2 height sensor 4 ตัว 3 timer relay 4 eas ecu 5 air drier และ air reservour 6 valve block 7 drive pack 8 compressor 9 air pipe และตัวสุดท้ายก็เจ้า switch eas
ถ้าจะศึกษากันให้ละเอียดจริง ๆ ระบบนี้ได้ถูกออกแบบและพัฒนามาเรื่อย ๆ จนมาอยู่ในนังอ้วนนี้ก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบได้ในระดับหนึ่ง ถ้าจะเทียบกับเจ้า l322 หรือเจ้า l320 นั่นก็คนละแบบเพราะระบบได้ถูกออกแบบมาแตกต่างกัน ถ้าพูดกันโดยรวมแล้วระบบที่อยู่ในนังอ้วนของเรานั้นค่อนข้างที่จะจุกจิกกว่า เป็นเพราะอะไรหรือครับ ถ้ามองกันให้ลึกซึ้งแล้วระบบ air suspension นั้นได้ถูกใส่มากับเจ้า range rover classic แล้วตั้งแต่เกิด และได้ถูกพัฒนามาใส่ในเจ้านังอ้วน แต่ด้วยทีมวิศวกรอาจจะไม่ได้คิดในเรื่องบางเรื่องก็เลยทำให้ระบบที่อยู่ในนังอ้วนมีปัญหา แต่ระบบที่ใส่อยู่กับเจ้า classic นั้นกลับไม่มีปัญหา อะไรทำให้เป็นแบบนั้น พรุ่งนี้จะมาเล่าให้ฟังต่อครับ ราตรีสวัสดิ์
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 17, 2009, 07:51:20 AM โดย คนรักษ์เร้นจ์ »
|
บันทึกการเข้า
|
พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
|
|
|
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
กระทู้: 553
รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2009, 08:17:15 AM » |
|
ที่จริงแล้วเรื่องระบบถุงลมนี้จะต้องไปอยู่ในหัวข้อของ top ten serious case ในอันดับที่1 แต่ยังเขียนไปไม่ถึงเลยมาเขียนที่นี่ก่อน ในเมื่อพูดถึงเรื่องนี้มาแล้ว ก็คงจะใช้กระทู้นี้เขียนต่อไปในเรื่องนี้ ที่เราค้างเอาไว้เมื่อคืนนี้ก็ตรงที่เพราะอะไรที่ทำให้ระบบถุงลมที่อยู่ในนังอ้วนถึงได้จุกจิกนัก เช้าทรุด กลางคืนทรุด วิ่ง ๆ ไปทรุด วันดีคืนดีโก่งทั้งตัว ก่อนที่จะพูดถึงนังอ้วน ขอพุดถึงระบบถุงลมใน range rover classic ก่อนดีกว่าเพื่อว่าจะได้นึกภาพได้ง่ายกว่า ระบบถุงลมใน classic นั้น ได้ถูกออกแบบมาก่อนจึงทำให้เจ้า classic ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในหลาย ๆ ประเทศและก็ประสบความสำเร็จในการใช้งาน ระบบก็เหมือนกันทุกอย่าง แต่มันแตกต่างกันที่สถานที่ติดตั้งระบบแตกต่างกัน วัสดุที่ใช้ก็แตกต่างกัน เช่นถุงลมรุ่นที่ใช้อยู่ในเจ้า classic นั้นจะมีความหนามากว่าที่ใส่อยู่ในนังอ้วน การติดตั้งชุดวาล์วบล็อคก็ติดตั้งอยู่ที่ chassis ด้านขวาล่าง ใต้ท้องรถตรงคนขับ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เจ้าวาล์วบล็อคที่อยู่ในเจ้า classic นั้นมีอายุยืนยาวมากกว่าในนังอ้วน แต่ก็มีอยู่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้าวาล์วบล็อคต้องย้ายที่ไปอยู่ที่หน้าห้องเครื่องด้านซ้ายของนังอ้วน มันมีข้อดีและข้อเสียต่างกันครับ เหตุผลที่ย้ายขึ้นไปก็น่าจะเป็นเรื่องของน้ำ หรือโคลน เวลาที่ไปลุยกันจริง ๆ ก็จะทำให้เจ้าชุดวาล์วบล็อคเปียกน้ำ ทำให้ระบบมีปัญหา ก็เลยย้ายขึ้นไปไว้ในห้องเครื่องยนต์ เพราะคิดว่าคงจะแก้ปัญหานี้ได้ แต่ก็คิดผิดครับเมื่อได้นำเจ้าวาล์วบล็อคชุดนี้เข้าไปอยู่ในห้องเครื่องยนต์ กลับทำให้มีปัญหามากกว่าตามมา จนทำให้ต้องดูแลกันไม่ไหวถึงกับต้องขายออกมา เพราะความร้อนในห้องเครื่องได้แผ่รังสีความร้อนทำลาย o ring seal ที่เป็นยางทั้งหมดภายในตัววาล์วบล็อค จึงทำให้เกิดการรั่ว ถึงแม้แต่จะเปลี่ยน o ring seal แล้วก็ตาม เนื่องจากนังอ้วนถูกออกแบบมาให้ใช้กับเมืองหนาว ดังนั้นเขาไม่ได้คิดเผื่อถึงรถที่จะนำมาใช้ในเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ถ้าถามกลับไปว่าทำไมตอนสั่งนำเข้า ทำไมไม่สั่งรถเมืองร้อนมา คงอย่าไปพูดถึงเลยครับรับรองเลยว่านังอ้วนที่อยู่ในเมืองไทยทุกคันเป็น spec uk ครับไม่มี spec ตะวันออกกลางเลยซักคันเดียว และก็เจ้าชุดวาล์วบล็อคชุดนี้ไม่ได้มีแต่วาล์วบล็อคเพียงอย่างเดียว มันยังได้พ่วงเจ้า drive pack กับเจ้า compressor เอาไว้ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
|
|
|
Webmaster
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2009, 03:24:03 PM » |
|
ความรู้....ความรู้....ดีครับ ปูเสื่อรอฟังต่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หน้าตาไม่เกี่ยว...อาศัยที่ปลี่ยว..และกำลัง
.......ดิ้นต่อยท้อง......ร้องต่อยปาก
|
|
|
phutarn
Webmaster Angel eye
Administrator
Hero Member
กระทู้: 2226
Angel eye
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2009, 10:39:41 PM » |
|
ลึกซึ้งมากยังงัยเราก็ยังจะใช้ถุงลมต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ภูเขา ธารน้ำ
|
|
|
rover
Newbie
กระทู้: 21
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2009, 11:14:06 PM » |
|
ขอบคุณทุกๆคำตอบครับ.....พอดีตอนนี้ผมมีอยู่2คันครับ(พึ่งได้มาใหม่1คัน)..... คันที่1.ว่าจะลองทำเป็นแบบมันส์ๆเลยคิดว่าจะเปลี่ยนเป็นสปริงใส่Maxซัก22นิ้ว.... คันที่2..คิดว่าคงขับแบบเดิมๆไม่มีการดัดแปลงใดๆครับ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
กระทู้: 553
รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2009, 08:14:10 AM » |
|
พี่ขอแนะนำนิดนึงนะครับไม่อยากให้เสียะกตังค์เยอะ การที่เราใส่ coil spring แล้วไปใส่ mag 22" นั้นพี่คิดว่าน่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีเพราะ series ของยางจะน้อยลง ยกตัวอย่างเช่น ขอบ 16" ในนังอ้วนจะใช้ 255 65 R16 ขอบ 18" จะใช้ 265 60 R18 ถ้าเป็นขอบ 20" จะใช้ 265 50 R20 และถ้าเป็น 22" จะเป็น 265 40R 22" พี่ว่ามันจะทำให้กระด้างขึ้นมากและเมื่อวิ่งเร็ว ๆ แล้วเกิดการกระแทกอย่างรุนแรงจะทำให้mag คดหรือแตกหักได้ครับ ทางที่ดีพี่ว่าถ้าคิดจะใส่ขอบ 22" หันมาใส่ขอบ 16" แล้วใส่ยาง mud 265 75R16 น่าจะดูดุและลุยมันกว่ากันนเยอะเลยครับ ชอแนะนำครับลองดูนิดนึงครับเพราะยาง ขอบ 22" แพงมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
|
|
|
aradej
Jr. Member
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2009, 09:14:58 AM » |
|
รบกวนกระทู้นี้นะครับ พอได้อ่านก็ได้ความรู้เพี่ม จะรบกวนถามต่อนะครับ กระทะที่ใหญ่ขึ้นความสูงของยางที่เตี้ยลง แรงดันลมยังคงเดิมหรือไม่ คือหน้า 28 หลัง 38 อยู่หรือเปล่าวครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
กระทู้: 553
รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2009, 06:05:13 AM » |
|
เท่าเดิมครับรับรองวิ่งดีไม่มีปัญหาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
|
|
|
|