รบกวนถามเรื่องติดแก๊สครับพี่ปัญจะ

[gorgog]

สวัสดีครับพี่..รบกวนถามเรื่องติดแก๊สหน่อยครับว่าถ้านังอ้วนจะติดแก๊สlpg..ส่วนใหญ่นิยมติดแก๊สระบบหัวฉีดหรือว่าระบบแรมด้าครับ แล้วมันมีข้อดีข้อเสียต่างกันไหมครับ..?(เรื่องการบำรุงรักษาและอัตราสิ้นเปลือง)แล้วรถพี่ติดแก๊สกันไหมครับ..?..ราตาค่าติดตั้งประมาณเท่าไหร่ครับ..ขอบคุณล่วงหน้าครับพี่ปัญจะ..(..จากคนอยากขับเรนจ์แต่ยังหาขับไม่ได้หุหุ.. )
    ปล.อีกอย่างครับพี่ค่าบำรุงรักษาตามระยะที่พี่โพสไว้อ่ะครับประมาณคราวๆให้หน่อยได้ไหมครับว่า10000km 20000,40000  ตามระยะอ่ะครับประมาณครั้งละเท่าไหร่  คือแบบว่าผมจะได้ประมาณออกว่าน่าจะขับเร็นจ์หรือจะหันไปขับเบ๊นซ์ดีครับ.. ขอบคุณอีกครั้งครับ

[คนรักษ์เร้นจ์]

ขอตอบน้องเลยครับ
การติดตั้งแก๊สของนังอ้วนนั้น ส่วนมากแล้วนิยมติดตั้ง lpg เพราะว่า lpg นั้นสามารถใช้กับถังโดนัืืท ความจุมากสุดถึง 103 ลิตร รองลงมาก็ 96 ลิตรวาล์วใน ส่วนถังแบบ 103 ลิตรจะไม่ค่อยนิยมเพราะเป็นวาล์วนอก คำว่าวาล์วนอกกับวาล์วใน นั้นต้องขออธิบายให้เข้าใจกันเสียก่อนว่าวาล์วในนั้นไม่ใช่วาล์วในประเทศ หรือวาล์วนอกนั้นไม่ใช่วาล์วนอกประเทศ วาล์วในนั้นหมายถึงวาล์วจะอยู่ภายในตรงกลาง ส่วนวาล์วนอกนั้นก็คือตัววาล์วอยูนอกวงถังโดนัืทครับ คราวนี้ก็มาว่ากันในเรื่องของ  ngv  ทำไมนังอ้วนถึงไม่ติดตั้งระบบนี้กันบ้างทั้ง ๆ ที่ราคาแก๊สถูกกว่าตั้งเกือบ  3  บาทต่อลิตรท มันมีที่มาที่ำไปครับ เพราะว่าถังที่บรรจุแก๊สของระบบ ngv มีขนาดเล็กไม่เพียงพอกับนังอ้วนครับอีกทั้งน้ำหนักยังมากและอุปกรณ์ยังแพงอยู่ ดังนั้นเราจึงหันมาใช้ lpg  เพราะว่ามีปั้มแก๊สทั่วประเทศแล้วตอนนี้  ต่างจังหวัดมีตลอดเหมือนปั้มน้ำมันครับ ส่วน ngv นั้นยังมีไม่มากและยังต้องต่อคิวนานอยู่จึงไม่ค่อยนิยมเท่าไร ส่วนระบบที่ติดตั้งในนังอ้วนนั้นขอตอบเลยว่าได้ทุกระบบเลย ไม่ว่าจะเป็นแบบ mixer , mixer lamda ,  หัวฉีดแบบไม่มีหม้อต้ม  หัวฉีดแบบมีหม้อต้ม   
แบบ mixer หรือระบบดูดนั้น จะติยมติดตั้งกันในตอนแรก ๆ ที่ระบบหัวฉีดยังไม่ได้นำเข้ามา ระบบดูดยังมีแยกออกไปอีก ดูดแบบธรรมดาทั่วไปที่รถแท๊กซี่บ้านเราติดกัน และแบบ variable ก็ติดตั้งได้ ข้อดีของระบบนี้ก็คือติดตั้งง่ายไม่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องมากนัก ข้อเสียก็คือ  เปลืองแก๊สมากที่สุดในทุกระบบที่ติดตั้ง รองลงมาก็ระบบ variable ก็จะสิ้นเปลืองแก๊สน้อยกว่าระบบดูด แต่ก็มีข้อเสียในจุดเดียวกันก็คือ ถ้าเกิดการกินไม่อิ่มหรือปริมาณแก๊สเข้าไม่เพียงพอเมื่อใดก็ตามจะเกิดอาการจามหรือ backfire ในท่อร่วมไอดี ทำให้กรองอากาศแตกได้ แต่บางที่ก็แปลงไปใช้กรองเปลือยแทนถ้าใช้แก๊สระบบนี้

แบบ mixer lamda  ก็จะเป็นอีกระบบหนึ่งที่พัฒนามาจากระบบดูดเพียงแต่มีการจ่ายแก๊สตามรอบความเร็ว หรือรอบเดินเบาโดยใช้  stepper moter  กับ  oxygensensor มาเป็นตัวกำหนดแทนที่รอบเดินเร็วกับรอบเดินเบาจะกินปริมาณแก๊สเท่ากัน ก็จำกัดการกินแก๊สโดยใช้ stepper มาเป็นตัวคอยเปิดปิดตามที่ ecu สั่งมา ระบบนี้ก็จะดีก็ตรงที่ประหยัดแก๊ส สั่งเร่งได้ดังใจ มาทั้งต้นและปลายไม่มีหมด แต่ก็จะมีข้อเสียก็คือในเวลาที่แก๊สเข้าไปไม่ทันหรือแก๊สบางเกินไปก็จะเกิดอาการจามในท่อร่วมไอดีและกรองอากาศจะแตกอีกเหมือนกันครับ

[คนรักษ์เร้นจ์]

ระบบหัวฉีดแบบไม่มีหม้อต้ม  น่าจะมีอยู่ยี่ห้อเดียวในประเทศไทยที่นำเข้ามาก็คือยี่ห้อ  อย่าไปรู้เขาเลยครับเดี๊ยวเขาให้ค่าโฆษณา ระบบหัวฉีดแบบนี้หลักใหญ่ ๆ ก็จะประกอบไปด้วย  ecu  หัวฉีด ท่อยาง สายไฟ ตัวจ่ายแก๊ส  solinoid  ถังแก๊ส ท่อทองแดง ตัวเติมแก๊ส   ก่อนอื่นต้องขออธิบายเรื่องสถานะของแก๊สก่อนเพื่อความเข้าใจ แก๊สนั้นเมื่อเราอัดเข้าไปอยู่ในถังที่แรงดัน 2 bar โดยประมาณก็จะเปลี่ยนสถานะจากแก๊สเป็นน้ำอยู่ในถังและกลายเป็นน้ำแข็งเมื่อไหลออกมาด้านนอก ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องอุ่นแก๊สให้ร้อนกลายเป็นไอก่อนนำไปเข้าห้องเผาไหม้ในเครื่องยนต์ แต่ด้วยระบบนี้ไม่มีหม้อต้ม จึงใช้ท่อทองแดงร้อยเข้าไปในท่อทางน้ำของระบบเครื่องยนต์เมื่อน้ำในหม้อน้ำร้อนท่อน้ำแก๊สที่ร้อยอยู่ในท่อน้ำก็จะร้อนไปด้วยจึงทำให้แก๊สถูกอุ่นให้ร้อนกลายเป็นไอและถูกส่งเข้าห้องเผาไหม้ ระบบนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิ่ยมมากนักในหมู่นักติดแก๊สเพราะดูแลยาก ติดตั้งไปประมาณ 3-4  ปีก็จะรวน เพราะไม่มีหม้อต้มการอุ่นแก๊สไม่ได้ที่ จึงทำให้เครื่องยนต์เดินไม่นิ่ง และเบาดับบ่อย ๆ  ข้อดีของระบบนี้ก็คือจะไม่มีการจามจึงไม่ทำให้กรองอากาศแตก ประหยัดแก๊ส ดูแลรักษาง่ายกว่าระบบดูด

ระบบหัวฉีดแบบมีหม้อต้ม ระบบนี้เป็นที่นิยมมาก สมัยที่เข้ามาใหม่ใหม่ มีราคาสูงมากจึงทำให้ไม่ค่อยนิยม แต่ในปัจจุบันราคาได้ลงมาสามารถติดตั้งได้ ทั้งรถเล็กและรถใหญ่  ส่วนมากจะใส่ถังโดนัทกันเพราะว่าถังโดนัทจะถูกวางไว้แทนยางอะหลั่ยจะทำให้ไม่เสียพื้นที่ในการติดตั้งถังแก๊สแบบ capsule ซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไรนัก  ระบบหัวฉีดแบบมีหม้อต้มนี้ มีมากมายหลายยี่ห้อครับ ตั้งแต่ราคาถูก ปานกลาง จนกระทั่งแพงเลยก็มี อย่าให้บอกยี่ห้อเลยครับ เดี๋ยวเขาให้ค่าโฆษณาครับ กลัวใช้ไม่หมดครับ เอาเป็นว่ายี่ห้อที่ใช้กับนังอ้วนแล้วไม่ค่อยมีปัญหา มันมีตัวเอขึ้นหน้าครับ ราคาก็ปานกลางครับ มีทั้ง สี่สูบ หกสูบ และแปดสูบครับถ้าจะเอาของถูกลงมาอีกก็มี made in thailand ก็มีครับ มีหลายยี่ห้อเหมือนกันครับ เอาเป็นว่าวันนี้พี่มีความรู้เรื่องแก๊สมาให้อ่านพอสมควร  ส่วนจะติดตั้งแบบไหน ยี่ห้อไหน ที่ไหน ราคาเท่าไรนั้น ต้องแล้วแต่ดุลย์พินิจของแต่ละท่านครับ 

[gorgog]

ขอบคุณครับพี่ที่ให้ความรู้...แล้วผมจะรีบๆหานังอ้วนมาขับครับ..
 ปล...ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับพี่..(จัดงานเสร็จเดี๋ยวก็หายเหนื่อยครับผม)

[คนรักษ์เร้นจ์]

ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ  ขอตอบเรื่องการเช็คระยะ ในแต่ละระยะใช้เงินประมาณแค่ไหน
ระยะ 5000 กม  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ กรองน้ำมันเครื่อง ถ้าน้ำมันเครื่องแบบธรรมดาก็ประมาณ  พันกว่าบาท แต่ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องแบบ fully synthetic ก็ประมาณ  สามพันกว่าบาทครับ
ระยะ 10000 กม เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ กรองน้ำมันเครื่อง  ราคาก็ประมาณกับห้าพันกิโลเมตรครับ เพราะว่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างเดียว
ระยะ 20000 กม เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ น้ำมันเกียร์เมน ราคาก็อยู่ประมาณเกือบสี่พันบาทครับ
ระยะ 40000 กม จะหนักหน่อยครับทุก ๆ สี่หมื่นกิโลเมตรเท่ากับเปลี่ยนถ่าย กรองอากาศทุกตัว ของเหลวทุกชนิด มีน้ำมันเครื่อง กรองเครื่อง กรองน้ำมันเบนซิน กรองอากาศ น้ำมันเกียร์เมน น้ำมันเกียร์พ่วง น้ำมันเฟืองท้ายตัวหน้า น้ำมันเฟืองท้ายตัวหลัง น้ำมันเบรค น้ำหล่อเย็น กรองอากาศระบบแอร์ซ้าย ขวา ส่วนราคาก็จะตกอยู่ประมาณเกือบหมื่นครับ
ส่วนมากแล้วนับมาถึงวันนี้อายุรถก็ผ่านมา 16 ปีแล้ว การเช็คระยะอาจจะเสียเงินไม่มากเท่าไร แต่จะไปหนักตรงที่ต้องปรับปรุงในส่วนที่หมดอายุ แทบจะทุกอย่างดังนั้นการที่จะซื้อรถรุ่นนี้ต้องดูให้ดีก่อนตัดสินใจ ต้องเลือกรถที่เจ้าของเก่าดูแลมาอย่างดีแล้ว น้องจะไม่เหนื่อยครับ

[gorgog]

ขอบคุณครับพี่ปัจจะ..หวังว่าผมคงจะได้มีรถเรนจ์ขับไวไว..จะได้ไปฝากตัวกับพวกพี่ๆ(ค่ายกครูเดี๋ยวจัดชาเขียวไปให้ครับ )