Rangeroverhouses.com Forum
มกราคม 11, 2025, 11:54:20 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: SMF - Just Installed!
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Range rover L322(2002-2005) top ten serious cases  (อ่าน 102563 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phutarn
Webmaster Angel eye
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 2226


Angel eye


« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2012, 09:46:55 PM »

โฮๆๆๆสุดยอดไปเลยพี่ มีหลายเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี้ย ยิ้ม
บันทึกการเข้า

ภูเขา ธารน้ำ
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #16 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 09:50:48 AM »

อรัมภบทเกี่ยวกับประวัติของ Land rover กันไปแล้ว ทางผู้เขียนเองก็หวังว่าทางท่านผู้อ่านคงจะได้รับเกล็ดความรู้กันบ้างไม่มากก็น้อย นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอะไรอีกตั้งมากมายที่ท่านผู้อ่านยังไม่รู้เกี่ยวกับ l322 ตัวนี้ แล้วเราก็มาเข้าเรื่องของเราต่อเลยดีกว่าครับ

เรามาสตาร์ทกันเลยก็แล้วกัน พูดถึงเรื่องสตาร์ทแล้วก็ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า ไอ้เจ้ารูกุญแจสตาร์ทสำหรับรถยนต์ร่นนี้ มันไม่ได้อยู่ตรงคอพวงมาลัยอย่างที่พวกเราเคยชินกัน การพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ทางทีมวิศวกรได้นำไปวางไว้ตรงคอนโซลเกียร์ใกล้ ๆ กับคันเกียร์นั่นเอง อาจจะขัด ๆ นิดหน่อยสำหรับท่านที่เพิ่งจะเริ่มใช้แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ แล้วก็จะชินไปเองครับ การสตาร์ทรถยนต์รุ่นนี้นั้น การบิดกุญแจสตาร์ทไม่จำเป็นต้องบิดแช่ไว้เหมือนดังรถยนต์รุ่นเก่า ๆ สำหรับเจ้า l322 นั้นเป็นอะไรที่พิเศษยิ่งกว่า การบิดกุญแจสตาร์ทที่ถูกต้องสำหรับรถยนต์รุ่นนี้นั้นควรจะบิดไปแล้วปล่อยกุญแจดีดกลับเอง ไม่ต้องรอให้เครื่องยนต์ติดแล้วค่อยปล่อย ไม่เชื่อลองทำดูสิครับ

การถอดขั้ว battery สำหรับรถยนต์ร่นนี้นั้นง่าย ๆ ครับแต่แบตเตอรี่จะค่อนข้างลูกใหญ่มากพอดู ที่ตั้งของแบตเตอรี่ก็อยู่ด้านหน้าซ้ายด้านใน ใช้กุญแจเบอร์ 10 ขันแน่นก็อยู่แล้วครับ แต่ต้องสังเกตุสักนิดนะครับว่าสายไฟของรถยนต์รุ่นนี้ สายสีแดงคือขั้วบวก แต่สายสีน้าตาลนั้นจะเป็นขั้วลบนะครับ จะไม่มีสีดำเข้ามาให้เห็นนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดคิดว่าสีน้ำตาลเป็นขั้วบวกต้องระวังนะครับ ถ้าใส่ผิดขั้วเมื่อไหร่ก็เรื่องใหญ่ครับ 12v 110Ah นั่นคือ size ของแบตเตอรี่ และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ห้ามใส่แบเตอรี่ที่มีขนาดเล็กกว่า spec ที่โรงงานผู้ผลิตกำหนดมา เพราะจะทำให้ท่านปวดหัวกับปัญหาระบบไฟฟ้าแบบไม่รู้จบ original parts เป็นสิ่งที่ควรนำมาใช้แต่ถ้าไม่ไหวในเรื่องราคา ที่ประมาณ 10000 บาทต่อลูก ก็ใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ครับ ราคาประมาณ 7000 บาท ต่อลูกครับ การถอดขั้วแบตเตอรี่ที่ถูกต้องนั้นจะต้องถอดขั้วลบก่อนเสมอแล้วจึงจะถอดขั้วบวก ทำไมต้องทำเช่นนี้ เพราะว่าเวลาที่ท่านจะถอดขัวแบตเตอรี่หากท่านทำการถอดขั้วบวกก่อนกุญแจหรือเครื่องมือที่ใช้สำหรับถอดอาจจะไปแตะกราวด์ทำให้เกิดการ spark ขึ้นได้ นั่นหมายถึงว่าจะไม่เกิดผลดีต่อสมองอีเล็คทรอนิคส์ของรถ อาจจะไม่เสียแต่ก็อาจจะทำให้เสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด หรือไม่ก็เอ๋อไปเลย ฉะนั้นการถอดแบตเตอรี่ครั้งต่อไปควรที่จะต้องดูเพราะว่าลูกจ้างที่ร้านแบตเตอรี่นั้นเขาไม่ใช่ช่าง ดังนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจมากมายนัก เพียงเพื่อทำให้เสร็จหน้าที่ไป ท่านเองจะต้องคอยดูเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง และเวลาใส่ขั้วแบตเตอรี่ก็ควรที่จะใส่ขั้วบวกก่อนเสมอและใส่ขั้วลบในลำดับสุดท้ายครับ เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้วก็วกลงมาถึง srs สักนิดหนึ่งครับ สำหรับ srs ในรถยนต์รุ่นนี้ถือว่าค่อนข้างที่จะ sensitive มากครับ เพราะว่าเขาชอบโชว์แล้วไม่ดับครับ สาเหตุหลักก็มาจากจุดนี้ด้วยครับ ดังนั้นถ้าท่านจะทำการต่อสายไฟ เพื่อนำไฟบวก 12 v ออกไปใช้เพิ่มเติมจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง แก๊ส ไม่ควรที่จะต่อจากขั้วบวกของแบตเตอรี่โดยตรง ควรไปต่อที่จุดที่ใช้สำหรับพ่วงออกไปจะดีกว่าครับ

มีคำถามมากมายกลับมาว่าเมื่อใส่ขั้ว แบตเตอรี่แล้วต้องทำอะไรบ้าง จะเหมือนกับนังอ้วนหรือไม่ จะยุ่งยากจุกจิกกว่ามากไหม ไม่ต้องตกใจไปมากนักครับ สำหรับรถยนต์รุ่นนี้อย่างที่บอกครับว่าได้รัการพัฒนามาจากรุ่น p38 ดังนั้นต้องมีอะไรที่ดีกว่าแน่นอน  ก็ง่าย ๆ ครับ เมื่อใส่ขั้วแบตเตอรี่แล้ว  สตาร์ทเครื่องยนต์  หน้าจอจะขึ้นคำว่า air suspension inactive และอีกหลาย ๆ คำ พร้อมกับมีไฟสามเหลี่ยมสีเหลือง และ abs โชว์อยู่ พอเครื่องยนต์ติดแล้วให้ท่านหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายสุดและกลับมาขวาสุดก็จะทำการ set ค่าต่าง ๆ แล้วครับ ไม่ต้องตกใจ เสร็จแล้วก็ ต้องตั้งวิทยุ นาฬิกา วัน เวลา และ memory เบาะ แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ เห็นไหมครับความยุ่งยากหมดลงไปในพริบตา จะแตกต่างจาก p38 มากครับ เพราะ p38 จะต้องกดกระจกทุกบาน sun roof ต้องเซ็ท ใส่โค๊ดวิทยุ syncronize กุญแจรีโมท  ซึ่งจะยุ่งยากกว่ามากครับ เดี๋ยวเราไปเรียนรู้ลึก ๆ กันในรายละเอียดอีกทีครับ

พูดถึงกุญแจรีโมท สำหรับรุ่นนี้ก็มี 2 ดอกเหมือนกันครับ เท่าที่สัมผัสดูไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไรในการใช้งาน จะมีปัญหาตรงปุ่มยางที่ชอบขาด ก็หาซื้อมาเปลี่ยนได้ครับ สำหรับกุญแจรุ่นนี้ถ้าท่านต้องการถอดกุญแจออกจากรูกุญแจ มีทางเดียวเท่านั้นคือใส่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง p เท่านั้น ในตำแหน่ง N นั้นไม่สามารถทำใด้สำรถยนต์รุ่นนี้ มีคำถามกลับมาอีกว่าถ้าจะไปจอดตามห้างสรรพสินค้าที่ต้องจอดขวางแล้วต้องใส่เกียร์ N ล่ะครับจะต้องทำอย่างไร ตอบได้เลยครับว่าหมดสิทธิ์ ต้องหาช่องจอดเพียงอยางเดียวเท่านั้นครับ


* Land_Rover-Range_Rover_2011_800x600_wallpaper_11.jpg (76.28 KB, 800x600 - ดู 2252 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 18, 2012, 07:21:55 AM โดย คนรักษ์เร้นจ์ » บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #17 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 10:19:06 AM »

และก็มีคำถามกลับมาอีกครับว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ไอ้เจ้า l322 ตัวนี้ผลิตออกมาจากโรงงานผู้ผลิตนั้นดูตรงไหนครับ ในเมื่อถามมาก็จะตอบกลับไปครับขอบคุณสำหรับคำถาม ก่อนอื่นเราควรจะรู้ว่าไอ้เจ้ารถยนต์รุ่นนี้ผลิตออกมาจากปีไหนถึงปีไหน และเลข chassis กับ engine number นั้นอยู่ตรงไหนไปด้วยครับ

สำหรับเลข chassis นั้น สำหรับรุ่นนี้นั้นจะนำไปไว้ที่  ห้องเครื่องยนต์ พอเปิดฝากระโปรงออำมาก็จะพบกับ   ที่ยึดโช๊คอัพหน้าด้านขวาหลังกล่องเครื่องยนต์ จะสังเกตุง่าย ๆ ครับ เราไปยืนที่ล้อหน้าด้านขวา แล้วลองมองเข้าไปที่ยึดหูโช๊คอัพหน้า ตรงนั้นแหละครับ เดี๋ยวทาง web master คงจะมีรูปภาพมาให้ดูนะครับ เพราะพี่ปัญจะนั้นทำไม่เป็นครับ น้อง ๆ web master ครับช่วยด้วยนะครับ ขอตั้งแต่ต้นเลยก็ได้ครับ

สำหรับเลขเครื่องยนต์นั้น สำหรับรุ่นนี้นั้นจะอยู่ด้านหน้าของเครื่องยนต์ ถ้ามองลงไปตรง ๆ ใต้ปีกผีเสื้อก็จะเห็นครับ แต่ไม่สามารถลอกเลขเครื่องได้ถ้าไม่ถอด ปีกผีเสื้อออก ถึงแม้จะถอดปีกผีเสื้อออกแล้วก็จะติดท่อน้ำหล่อเย็นอีกครับ สำหรับเครื่องยนต์รุ่นนี้เท่าที่ซื้อขายกัน ทางกรมการขนส่งทางบกท่านจะไม่ค่อยเข้มงวดเท่าไรครับ ถ้าลอกได้ก็ลอกไป ถ้าลอกไม่ได้ท่านก็เพียงแต่ใช้ไฟฉายส่องเลขเครื่องว่าตรงหรือไม่ เท่านั้นเองครับ ไม่ต้องกังวลไปครับ

แล้วการที่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารถยนต์คันนี้ผลิตมาจากโรงงานผู้ผลิตเมื่อใด จุดที่เราจะดูมีอยู่ 3 ที่ครับ  จุดแรกจะอยู่ในห้องเครื่องยนต์ด้านขวาตรงหูโช๊คอัพขวานั่นแหละครับจุดนี้จะใช้สำหรับการลอกเลขเพื่อต่อภาษีหรือโอน ส่วนจุดที่สองจะเป็นเพียง sticker สีดำ จะอยู่ที่ด้านซ้ายใกล้ ๆ กับที่เติมน้ำฉีดกระจกหน้า ส่วนจุดที่ 3 นั้นจะอยู่ตรงกระจกบังลมหน้าด้านซ้ายตรงที่เดียวกับรุ่น p38 นั่นแหละครับ

สำหรับ code ที่ใช้นั้นจะขึ้นต้นด้วย      SALLMAMA 32A123456   2A นั้นจะทำให้ท่านทราบได้ว่ารถยนต์คันนี้ ถูกผลิตออกมาจากโรงงานผู้ผลิตในปี   2002
                                           SALLMAMA 33A123456   3A                                                                                      2003
                                           SALLMAMA 34A123456   4A                                                                                      2004
                                           SALLMAMA 35A123456   5A                                                                                      2005

สำหรับ code SALLMAMA  32A นั้นจะเป็น code ของโรงงานผู้ผลิตเพื่อจะได้รู้กันในสายงานการผลิตว่า S นั้นย่อมาจากอะไร A นั้นย่อมาจากอะไร L คืออะไร ดังนั้นอาจจะไม่จำเป็นสำหรับเราแต่ถ้าอยากจะรู้จริงถ้าท่านถามมาเราก็ยินดีที่จะตอบให้ท่านได้ทราบกัน


                                                                                                                                                                                  


* Land_Rover-Range_Rover_2003_800x600_wallpaper_18.jpg (119.47 KB, 800x600 - ดู 2401 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 18, 2012, 07:56:19 AM โดย คนรักษ์เร้นจ์ » บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #18 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 10:58:45 AM »

เขียนอะไรไปเรื่อยเปื่อยก็อย่างที่บอกกันว่าทุกอย่างนั้นส่งตรงออกมาจากสมองโดยตรงอาจจะไม่ได้เป็นทางการมากมายนัก นึกคิดอะไรได้ก็นำออกมาให้อ่านกันเพื่อหวังเพียงว่าสิ่งที่เราคิดเราทำนี้จะเป็นวิทยาทานอย่างที่เราตั้งใจที่จะทำ สิ่งใดที่อ่านแล้วฟังแล้วท่านคิดว่าอันนี้ไม่ใช่อันนี้ไม่ถูกต้องสมควรที่จะท้วงติงเพื่อให้เกิดความถูกต้องมากที่สุดก็ขอน้อมรับเอาไว้แก้ไข พี่ปัญจะเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเขียนบทความนของเราจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย  ต้องขอออกตัวก่อนว่าพี่ไม่ใช่นักเขียนอาชีพ วกไปบ้างวนมาบ้างต้องขอพระอภัยมณีศรีสุดา มาด้วยนะครับ ขอบคุณที่ติดตาม
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #19 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 01:34:10 PM »

มาต่อกันอีกกับคำถามทืว่าเมื่อเวลารถสตาร์ทไม่ติดสามารถพ่วงแบตเตอรี่ได้หรือไม่ เวลาจอดรถไว้นานนานไม่ได้ใช้แล้วแบตเตอรี่หมด จะเกิดปัญหาใดๆ กับระบบหรือไม่ถ้าจำเป็นต้องพ่วงแบตเตอรี่สตาร์ท  ตอบกันตรง ๆ เลยครับว่ารุ่นนี้สามารถทำได้เลยไม่มีผลชข้างเคียงกับระบบไฟฟ้า เพียงแต่ว่าควรจะต้องทำให้ถูกต้องตามคำแนะนำของโรงงานผู้ผลิต นั่นก็คือ ต้องใช้สายพ่วงแบตเตอรี่เส้นใหญ่ไม่ต่ำกว่า 10 มม. มาทำการพ่วงกับรถอีกคันหนึ่ง โดยทำตามนขั้นตอนดังนี้  นำสายบวกคีบเข้ากับขั้วบวกที่ใช้สำหรับพ่วงโดยเฉพาะซึ่ง l322 จะมีมองเห็นได้ชัด และนำสายบวกอีกด้านหนึ่งคีบเข้ากับรถยนต์คันที่นำมาพ่วงแบตเตอรี่  แล้วก็นำสายลบคีบเข้ากับกราวด์ของ l322 ซึ่งจะมองเห็นอยู่ และนำขั้วลบอีกขั้วหนึ่งคีบเข้ากับตัวรถคันที่จะมาพ่วง หลังจากนั้นติดเครื่องยนต์คันที่นำมาพ่วง เร่งเครื่องยนต์ประมาณ 2000 รอบ แล้วจึงมาสตาร์ทรถคัน l322 เท่านี้เครื่องก็ติดครับ แต่ยังไม่หมดกระบวนการครับ ตอนถอดสายไฟออกต้องถอดขั้วลบออกก่อนเสมอ แล้วจึงถอดขั้วบวกออกทั้งสองคัน เท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการครับ  สิ่งสำคัญที่อธิบายมาเสียยืดยาวนี้ก็จะชี้ให้เห็นถึงรายละเอียดที่พวกเรามองข้ามในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป แต่จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาได้โดยที่ท่านไม่รู้ตัว เหมือนกับเรากำลังไปบั่นทอนสุขภาพรถของเราเองโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้นจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้สิ่งที่เรารักและหวงแหนอยู่กับเราไปนาน ๆ และไม่เสียจุกจิกก็พอใจแล้วครับ ดังนั้นก่อนพ่วงแบตเตอรี่ทุกครั้งต้องคิดอยู่เสมอว่าคีบขั้วบวกรถของเราแล้วคีบขั้วบวกของรถที่นำมาพ่วง จากนั้นก็คีบขั้วลบที่รถของเราแล้วก็คีบขั้วลบ่ของรถที่นำมาพ่วง หลังจากเสร็จแล้วก็ให้จำไว้เสมอว่าถอดขั้วลบก่อนเสมอครับ จำง่าย ๆ ครับอะไรที่ใส่ก่อนก็ถอดทีหลังครับ  เท่านี้รถของเราก็จะไม่เกิดปัญหาทั้งปวงครับ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
phutarn
Webmaster Angel eye
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 2226


Angel eye


« ตอบ #20 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 03:50:52 PM »

อ่านไม่ทันเลยครับพี่ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


* IMG_2633.JPG (101.25 KB, 611x407 - ดู 2258 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ภูเขา ธารน้ำ
phutarn
Webmaster Angel eye
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 2226


Angel eye


« ตอบ #21 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 03:52:50 PM »

Range rover  l322 technical specification

  เครื่องยนต์                                                                                                                     M62     เบนซิน                                                   M57   ดีเซล


ความจุของกระบอกสูบ                                                                                                           4398 cc                                                              2926 cc
จำนวนลูกสูบ                                                                                                                                 8                                                                    6
เสื้อสูบ                                                          แบบเรียง                                                                   V8                                                               
ความโตกระบอกสูบ                                                                                                                                 92                                                        84  mm
ระยะชัก                                                                                                                           82.7                                                                    88  mm
อัตราส่วนกำลังอัด                                                                                                             10.1                                                                    18.1
ฝาสูบ                                                                                                                                อลูมิเนียม                                                              อลูมิเนียม
เสื้อสูบ                                                                                                                               อลูมิเนียม                                                              เหล็กหล่อ
ระบบจุดรเบิด                                                                                                                     bosch 7.2                                                        bosch  DD4.0
จำนวนวาล์ว/สูบ                                                                                                                 4                                                                         4
กำลังสูงสุด                                                                                                                         210kw./5400rpm                                           130kw/4000rpm
แรงบิดสูงสุด                                                                                                                      440Nm/3600rpm                                           390Nm/2000rpm


ระบบส่งกำลัง

เกียร์                                                                                                                                   ZF5HP24                                                         GM5
อัตราทด  
เกียร์ 5                                                                                                                                0.80                                                                    0.75
เกียร์ 4                                                                                                                                1.00                                                                    1.00
เกียร์ 3                                                                                                                                1.51                                                                    1.60
เกียร์ 2                                                                                                                                2.20                                                                    2.21
เกียร์ 1                                                                                                                                3.57                                                                    3.42
เกียร์ถอยหลัง                                                                                                                      4.10                                                                     3.03
อัตราทดสุดท้าย                                                                                                                  3.73                                                                     4.10
อัตราทดเกียร์พ่วง ในตำแหน่ง High                                                                                   1.00                                                                     1.00
อัตราทดเกียร์พ่วง ในตำแหน่ง low                                                                                      2.70                                                                     2.70

shift on the move mph (kph)
in gear speed (kph/1000rpm)                  
high to low                                                                                                                     10(16)                                                                 10(16)
low to high                                                                                                                     30(48)                                                                 30(48)
5th high                                                                                                                           46.74                                                                   44.76
1st high                                                                                                                           10.47                                                                     9.86
1st low                                                                                                                              3.89                                                                      3.66

น้ำหนักตัวรถ(kg)

Unladen  (no options)                                                                                                2440                                                                   2435
Unladen  (all options)                                                                                                2570                                                                   2570
GVW                                                                                                                               3050                                                                   3050
Front(rear) split                                                                                                            1200 (1850)                                                      1200 (1850)
GTW                                                                                                                               6650                                                                   6650
Max braked trailer                                                                                                      3500                                                                   3500
Max front axle                                                                                                               1530                                                                   1530
Max rear axle                                                                                                               1850                                                                    1850
Down hitch load                                                                                                             250                                                                      250

PERFORMANCE

0-60mph                                                                                                                         TBC                                                                   TBC
0-100 kph                                                                                                                        9.2                                                                      13.6
Max speed Mph (kph)                                                                                               130  (208)                                                          111  (179)
Urban mpg  (1/100 km)                                                                                             12.7  (22.2)                                                        19.6  (14.4)
Extra Urban                                                                                                                   22.4  (12.6)                                                        30.1 (9.4)
Combined                                                                                                                     17.4  (16.2)                                                        25.0  (11.3)
Tank capacity  ltr                                                                                                        100                                                                      100
Range  mls (km)                                                                                                         384 (617)                                                           550 (885)
CO2 Emission g/km                                                                                                  5.22                                                                     (0.95)
Cd/Cda                                                                                                                         0.38/1.125                                                         0.38/1.126

STEERING

type                                                                                                                                Servotronic Rack and Pioion       Servotronic Rack and pinio
Turn lock to lock                                                                                                        3.5                                                                        4.5
Turning circle (kerb to kerb)                                                                                  11.6m                                                                  11.6m
Turning circle (wall to wall)                                                                                     12.6m                                                                  12.6m

BRAKES

Front Sizes mm                                                                                                           344x30                                                              344x30
Type                                                                                                                               Vented disc                                                    Vented disc
Rear Sizes mm                                                                                                           354x12                                                              354x12
Type                                                                                                                               Solid disc                                                        Solid disc


* range-frames.jpg (52.92 KB, 571x194 - ดู 2205 ครั้ง.)

* Fa L322.jpg (40.38 KB, 500x324 - ดู 2600 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 16, 2012, 06:22:56 PM โดย คนรักษ์เร้นจ์ » บันทึกการเข้า

ภูเขา ธารน้ำ
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #22 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 05:36:16 PM »

ขอบคุณมากครับ สำหรับ webmaster ที่น่ารักของพวกเรา สุดยอดจริง ๆ ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ ได้ดั่งใจจริง  ๆ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
phutarn
Webmaster Angel eye
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 2226


Angel eye


« ตอบ #23 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2012, 10:40:24 PM »

แค่นี้จิ๊บๆครับจัดเต็มไปเลยพี่ๆๆๆๆเข้ามารออ่านทุุกวันเลยครับๆๆๆๆๆวันไหนไม่ได้อ่านมันนอนไม่หลับครับๆๆๆ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

ภูเขา ธารน้ำ
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #24 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2012, 07:55:30 AM »

วันนี้พี่ตื่นแต่เช้าอากาศแจ่มใสเริ่มหนาวแล้ว อากาศแถวบ้านเร้นจ์ดีมากครับ เห็นมีเพื่อนสมาชิกอีกหลายคนรออนุมัติอยู่ รบกวนน้อง ๆ webmaster ช่วยอนุมัติด้วยนะครับ ขอบคุณครับ วันนี้ก็มีเรื่องมาคุยกันอีกเกี่ยวกับลมยางที่ถามกันเข้ามามาก ก็จะคุยให้ฟังเลยครับ

สำหรับเจ้า l322 ตัวนี้นั้น ล้อและยาง standard ที่ออกมาจากโรงงานนั้น จะเป็นลาย 6 ก้านกับยาง pirelli 255/55/19 ก็สวยงามครับ แต่เมื่อใช้งานไปยางหมดสภาพ ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนยางใหม่ นี่แหละตัวเจ้าปัญหาเลยครับ เพราะว่ากะทะล้อแม็กนั้น std จะเป็น19" เมื่อ่จำเป็นต้องเปลี่ยนยางใหม่ ราคายาง สำหรับ19" นั้นค่อนข้างที่จะมีราคาสูง จึงมีความคิดที่จะเปลี่ยนเป็นกะทะล้อ 20" มาใส่แทนเพราะว่าราคายางถูกกว่าครึ่ง และหาได้ง่ายกว่า 19" ส่วนมากแล้วเราจะหันมาใส่เจ้า stormer กับยาง yokohama parada 265/50/20 แทนครับ เห็น series ลดลงมา จาก 55 เป็น 50 ความนุ่มนวลในการขับขี่จะหายไปหรือไม่ ตอบได้เลยครับว่าเหมือนเดิมครับ แต่การเกาะถนน การเบรค การทรงตัวจะดีขึ้นตามมาครับ ลืมไปครับว่าท่านถามเรื่องลมยางมาว่าต้องเติมเท่าไร  ลมยางหน้านั้น 34lb/in  ลมยางหลังก็ 36 lb/in ครับ แต่ถ้าจะต้องบรรทุกมากขึ้นหรือบรรทุกผู้โดยสารมากขึ้นเป็นประจำก็ไปดูได้ที่เสาประตูหน้าขวาครับจะมีบอก spec เรื่องลมยางไว้ครับ แตถ้าจะให้สุดไปเลยก็ขอแนะนำเป็น 22" ไปเลยครับบ  285/35/22 นั่นคือขนาดของยางที่ใช้ครับ ส่วนยางที่พวกเราไว้ใจก็หนีไม่พ้น yokohama parada ตัวเดิมครับ  ส่วนตอนนี้ก็มียางสายพันธุ์อเมริกาเข้ามาครับ pirelli ต้องขอเวลาทดสอบอีกสักระยะหนึ่งแล้วจะนำผลที่ได้มาแจ้งให้ทราบครับตอนนี้กำลังใส่ทดสอบวิ่งดูอยู่ครับ หากว่าผลเป็นที่น่าพอใจเราก็จะแนะนำเพื่อนสมาชิกต่อไปครับ เพราะว่าเท่าที่ใช้ดูแล้วความนุ่มนวลนั้นไม่ได้หายไปมากมายนัก เพราะว่าซุ้มล้อสำหรับเจ้า l322 นั้นใหญ่มาก ขนาดใส่ mag 22" ยังมองดูเล็กเลยครับ  แต่ที่ usa นั้น เขาใส่กันถึง 24" ครับ สุดยอดไปเลยครับแต่ไม่เหมาะสมกับสภาพถนนบ้านเราครับและราคายางก็แพงมากเกินไป และในเมืองไทยก็ยังไม่มีขายด้วย ดังนั้นถ้าอยากสวยและประหยัดเวลาจะเปลี่ยนยางไม่แพงแล้วล่ะก็ 20" นั้นเป็นตัวเลือกที่น่าเก็บไว้พิจารณาครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 27, 2012, 01:24:53 PM โดย คนรักษ์เร้นจ์ » บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #25 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2012, 08:42:48 AM »

ที่จริงแล้วในกระทู้นี้ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับเจ้า l322 อย่างเดียว แต่ก็เขียนมาตั้งหลายวันแล้วยังไม่ได้ขึ้นมาเลยสักหัวข้อ เดี๋ยวเพื่อนสมาชิกที่ติดตามอ่านอยู่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนอีก เอ้าเอาซักเรื่องนึงก่อน เดี๋ยวนึกก่อน เอ้า โอมมะลุกตุ๊กตุ๋ย  ว่าแล้วก็ล้วงลงไปในกระเป๋าโดเรม่อน หยิบอะไรออกมาใบนึง ได้ออกมาแล้วครับผลออกมาได้ลอตเตอรี่มาใบนึงครับ ไม่ใช่ล้วงใหม่  (ล้อเล่นขำ ๆ ครับอย่าไปเครียด)

เรื่องแรกได้แก่ระบบบังคับเลี้ยว  ทำไมต้องเป็นเจ้าตัวนี้ด้วยเห็นรถคันออกใหญ่โตทำไมระบบบังคับเลี้ยวถึงมีปัญหาได้ แล้วจะเชื่อใจได้อย่างไร จะมีความมั่นใจขนาดไหน เสียว ๆ เหมือนกันใช่ไม๊ล่ะ ไม่ต้องตกก๊ะใจหรอกครับในเมื่อทีมวิศวกรเขาได้ผ่านการทดสอบตามหลักวิชาการของเขามาแล้ว และได้ถูกใส่ใช้งานมานานแล้ว ที่เราจะมาคุยนี้จะมาคุยถึงปัญหาการใช้งานครับ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ถ้าอ่านมาตั้งแต่ต้นคงจะจำได้ว่าเจ้า l322 ตัวนี้นั้นเป็นรถที่ไม่มี chassis ตัวถังนั้นจะเป็นโมโนค็อคเหมือนรถเก๋งทั่ว ๆ ไปครับ ด้วยการที่เป็นรถที่ไม่มีchassis มารองรับ และเป็นอิสระทั้งสี่ล้อใช้ตัวถังเป็นจุดยึดและใช้คานยึดแท่นเครื่องเข้ากับตัวรถ เวลาที่จะต้องยกเครื่องยนต์ลงมาทำการ services ก็จำเป็นที่จะต้องถอดยกออกมาทั้งหมด ดังนั้นจะเห็นได้ว่าไม่มีจุดไหนแข็งแรงพอที่จะยึดกระปุกพวงมาลัยได้ นี่แหละจึงได้เป็นเหตุผลหนึ่งที่เจ้า l322 ตัวนี้ไม่มีกระปุกพวงมาลัยสำหรับบังคับเลี้ยวเหมือนกับรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อโดยทั่วไป ท่านอาจจะถามว่าไม่มีกระปุกพวงมาลัยแล้วรถจะวิ่งได้อย่างไร ก็ด้วยเหตุผลที่เราไม่มี chassis ที่จะยึดกระปุกพวงมาลัยนี่แหละ ทางทีมวิศวกรผู้ออกแบบจึงได้นำระบบบังคับเลี้ยวแบบรถเล็กที่ใช้ก็คือ rack and pinion เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ทุกท่านคงจะนึกภาพออกนะครับ  มาใส่ไว้แทนและเจ้าตัว rack and pionion นี้ก็ได้ถูกยึดติดกับแพของเครื่องยนต์  ระบบบังคับเลี้ยวของ l322 นี้จะแตกต่างจากนังอ้วนโดยสิ้นเชิงครับ เพราะว่านังอ้วนมี chassis มีคานแข็งรองรับระบบกันสะเทือนทั้งสี่ล้อ ดังนั้นจึงใช้กระปุกพวงมาลัยได้และแบบที่ใช้จะเป็นแบบ worn and sector มันจะแตกต่างกันตรงไหนครับระหว่างกระปุกพวงมาลัยกับ rack พวงมาลัย  อย่างที่เรารู้ ๆ กันอยู่นะนครับว่ารถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อนั้นน้ำหนักตัวเองนั้นก็เข้าไปตั้ง 2 ตันกว่าแล้ว ดังนั้นความแข็งแรง ความคงทน ต่อสภาพการใช้งาน และสภาพถนนในเมืองไทยด้วยแล้ว ภาระที่หนักหน่วงมีอยู่ หลายอย่างที่จะได้รับ ส่วนที่ได้รับหนัก ๆ เลย ก็มี กระปุกพวงมาลัย นี่แหละ ที่จะต้องรับแรงกระแทกกระทันจากสถาพถนนก่อนที่จะถึงมือผู้ขับขี่  จะสังเกตุได้ง่าย ๆ ว่า นังอ้วนนั้นไม่ค่อยจะมีปัญหาเรื่องกระปุกพวงมาลัยเลย จะมีเพียงก็น้ำมันรั่วซึมทที่ seal ตัวบนกับตัวล่างเท่านั้น แล้วทีมวิศวกรผู้ผลิตใส่เจ้า rack and pionion มาทำไม


* IMG_8195.JPG (117.93 KB, 640x427 - ดู 2705 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 19, 2012, 10:48:36 PM โดย phutarn » บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #26 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2012, 08:43:00 AM »

เมื่อมองดูถึงขึดความสามารถ ข้อจำกัดต่าง ๆ แล้วพี่คิดว่าทางทีมวิศวกรเองเขาก็คงจะหมดทางเลือกเหมือนกัน เพราะในเรื่องห้องเครื่องยนต์ที่คับแคบ ในเรื่องที่จะต้องมีคันชักคันส่งอีก มีหลายสิ่ง  หลายอย่างที่ต้องเพิ่มขึ้นมาซึ่งดูแล้วคงจะเป็นอะไรที่ไม่ลงตัว ทีมงานออกแบบจึงต้องใส่เจ้า rack ตัวนี้เข้ามา ก็ต้องทำใจในเรื่องของความแข็งแรงคงทนต่อสภาพการใช้งานอาจนจะไม่มีอายุยืนยาวเท่ากับกระปุกพวงมาลัย แต่ก็ใช้งานได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ในการวิ่งความเร็วสูง หรือในสภาพทุรกันดาร ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเสียเลยทีเดียว ข้อดีก็มีครับ การที่ใช้เจ้า rack ใส่เข้ามานั้นทำให้วงเลี้ยวในการ u turn นั้นแคบลง วงเลี้ยวแคบ่กว่า p 38 ครับ สำหรับนังอ้วนนั้น บางคันเลี้ยวไม่พ้นฟุตบาธ ครับ บางครั้งต้องถอยหลังอีกครั้ง แต่ถ้ามุมล้อได้จะเลี้ยวได้พอดีครับ ดังนั้นเจ้านังอ้วนที่เลี้ยวไม่พ้นฟุตปาธ ต้องรีบดำเนินการแก้ไขมุมล้อด่วนครับ ต้องลองเช็คตัว stopper ที่ล้อดูว่าระยะที่โรงงานผู้ผลิตกำหนดนั้น ไม่น่าจะเกิน 1.50cm ครับ เอ้าเลยไปหน่อยนึง กลับมาที่ rack ของเจ้า l322 กันดีกว่าครับ ส่วนข้อเสียนั้น  ก็มีหลายอย่างเหมือนกัน
ในอันดับแรกเลยก็เรืองปัญหาของน้ำมันเพาเวอร์พวงมาลัยรั่วซึมที่ซีลปลาย rack ทั้งสองด้าน
ในอันดับต่อมาก็เรื่องเสียงดังที่บู้ชบังคับราง rack ส่วนมากแล้วจะดังที่ด้านซ้ายครับ
และในอันดับสุดท้ายก็ลูกหมากปลาย rack และลูกหมากที่ล้อครับ
ส่วนในตัวของ joint ที่แกนพวงมาลัย ไม่ค่อยมีปัญหาครับ
สิ่งที่มีเพิ่มขึ้นมาในรุ่นนี้ก็คือ  เจ้าตัว sensor พวงมาลัยครับ เป็นอุปกรณ์ electronics ที่ใส่มากับรถรุ่นนี้ เจ้าตัวนี้ทำหน้าที่อะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2012, 01:05:06 PM โดย คนรักษ์เร้นจ์ » บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2012, 01:29:30 PM »

ชื่ออย่างเป็นทางการของเจ้า sensor ตัวนี้ก็คือ servotronic valve ตัวมันเองมีหน้าที่ปรับแรงดันน้ำมันเพาเวอร์ให้พวงมาลัยหนักหรือเบาแปรผกผันกับความเร็ว หรือพูดง่าย ๆ เข้าใจกันง่าย ๆ ก็คือในเวลาที่ไม่มี load หรือความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง พวงมาลัยจะเบา เมื่อรถมีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เจ้า servotronic ตัวนี้จะทำการปรับแรงดันทำให้พวงมาลัยหนักขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่บังคับทิศทางของรถได้ง่ายและปลอดภัย

จะเห็นได้ว่ายุ่งยากพอสมควรกับระบบบังคับเลี้ยวที่เป็นครั้งแรกในโลกของ land rover เลยก็ว่าได้ที่นำเอา rack and pinion มาใส่ไว้ใน land rover รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเจ้าตำนานของเจ้าพ่อ off road ฉบับผู้ดีอังกฤษ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2012, 07:33:02 AM โดย คนรักษ์เร้นจ์ » บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2012, 01:38:33 PM »

เขียนมาตั้งนานบทสรุปก็อยู่ตรงนี้นี่เอง

ข้อดีของ rack l322
วงเลี้ยวแคบ ชิ้นส่วนที่น้อยลง ที่ติดตั้งแคบก็ติดตั้งได้ มีอุปกรณ์ electronics และ ecu มาใช้ร่วมกัน ความสะดวกสะบายขึ้น พวงมาลัยเบา

ข้อเสียของ rack l322
อายุการใช้งานสั้น ต้องพบกับปัญหาน้ำมันเพาเวอร์รั่ว เสียงดังในเวลาขับขี่ ความแข็งแรงน้อยลง  มีราคาแพง และน้ำมันเพาเวอร์ที่ใช้นั้น ต้องใช้ของ land rover เท่านั้น ข้อสำคัญ เวลาเสียต้องเปลี่ยนทั้งอัน ยังไม่มีชุด repair kit ออกมาขายครับ

ถ้าจะเทียบกระปุกพวงมาลัยของนังอ้วน กับ rack ชอง l322 แล้วล่ะก็ นังอ้วนกินขาดครับ รถบางคัน ตอนนี้ก็ 17 ปีแล้ว seal ยังไม่รั่วเลยครับ และก็ยังไม่เคย overhaull เลยครับ มีปรับตั้งระยะห่างบ้างเป็นเรื่องปกติธรรมดา น้ำมันเพาเวอร์ก็ใช้น้ำมัน เกียร์ออโต้นี่แหละครับ ง่าย ๆ หาซื้อเติมได้ตลอด ราคาก็ไม่แพง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2012, 01:48:43 PM โดย คนรักษ์เร้นจ์ » บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #29 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2012, 01:54:51 PM »

ในเมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ก็มีอีกตัวหนึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน ตัวนี้ก็มีปัญหาบ่อยเหมือนกันครับ บู้ชยางปีกนกล่าง ทั้งหน้าและหลัง ส่วนมากใช้งานไปแล้วก็จะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ถ้าบู้ชยางสึกหรือเสื่อมสภาพ เวลาออกตัวหรือหยุดทันทีทันใด จะรู้สึกเหมือนกับว่าล้อหรือปีกนกไม่แน่น สำหรับบู้ชนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้มีแบบแยกชิ้นขายไม่ต้องซื้อทั้งปีกนก หรือจะเลือกซื้อทั้งปีกนกก็ได้ครับ แล้วแต่ว่าจะสะดวกแบบใด
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Hosting by THAISITE.net Valid XHTML 1.0! Valid CSS!