Rangeroverhouses.com Forum
มกราคม 12, 2025, 12:55:30 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: SMF - Just Installed!
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 10
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Range rover L322(2002-2005) top ten serious cases  (อ่าน 102619 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 21 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #60 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 09:55:59 AM »

วันนี้นั่งเขียนอยู่บนรถ รายงานสดระหว่างทางจากหาดใหญ่ไปนครศรีธรรมราช คราวที่แล้วนั้นเราได้คุยกันถึงเรื่องถุงลมนิรภัยกันไปแล้ววันนี้นั่งรายงานอยู่เบาะหลังเจ้า l322 ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ มองไปรอบ ๆ ตัว ว่าวันนี้เราจะคุยกันถึงเรื่องอะไรดี ในห้องโดยสารเท่าที่ดูแล้วยังคงมีอีกไม่กี่อย่าง นึกขึ้นมาได้ครับเจ้าตัวนี้ก็สำคัญเหมือนกันครัย อยู่ข้างหลังพี่นี่เอง ให้ทายซิว่าตัวอะไร เจ้าตัวนี้จะอยู่ในระบบ air suspension ครับ ชื่อไทย ๆ ก็ตคือเจ้าปั๊มลมนั่นเอง ชื่อย่างเป็นทางการ ก็ air compressor แล้วทำไมมันถึงได้เข้ามาอยู่ในห้องโดยสารได้ล่ะครับ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #61 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 10:29:49 AM »

แจ๊คกี้ครับขับเบา ๆ หน่อยก็ได้ครับพ่อจิ้มไมถูกครับ ก็มาว่ากันต่อครับ เจ้าตัวปั๊มลมตัวนี้ได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมามากแตกต่างจาก ปั๊มลมที่ติดตั้งอยู่ในนังอ้วนมากมาย สถานที่ติดตั้งนั้นได้ถูกนำไปไว้ในหลุมยางอะหลั่ย และมียางอะหลั่ยครอบเอาไว้ ถ้าไม่บอกว่าเจ้าตัวปั้มลมอยู่ที่ยางอะหลั่ยก็อาจจะไม่รู้ก็ได้ เพราะวาวเวลาเขาทำงานนั้นจะเงียบมากแทบจะไม่ได้ยินเสียงดังเล็ดลอดออกมาเลย พี่ปัญจะเองก็ชอบในการออกแบบและพัฒนาระบบ airsuspension ของรถยนต์รุ่นนี้เป็นอย่างมาก ปัญหาจุกจิกในการใชงานก็ดี ในการบำรุงรักษาก็ดี แทบจะไม่มีให้เห็น ไม่ว่าจะจอดแล้วทรุดตัวในตอนเช้า ถ้าถุงลมดีจอดเป็นเดือนก็ไม่มีทรุดให้เห็นครับ ในระบบได้ถูกตัด valve block drive pack ออกไปจึงทำให้ระบบมีเสถียรภาพมากขึ้น เหลือเพียงตัว height sensor ที่ล้อเพียงสี่ล้อเท่านั้น ผิดกับเจ้านังอ้วนนั้นจะรวมชุดวาล์วบล็อค ไดร้ฟ์แพ็ค ปั๊มลมเข้าไว้ด้วยกันและที่เป็นปัญหามากก็คือได้นำเจ้าชุดวาล์วบล็อคไปติดตั้งไว้ในห้องเครื่องด้านซ้าย ซึ่งถ้ามองถึงการติดตั้งไว้ในห้องเครื่องยนต์นั้นได้ทำถูกต้องแล้ว เพราะเหตุผลใดหรือครับ มันมีเหตุผลครับ เนืองมาจาก เจ้าระบบ air suspension นั้น ได้ถูกออกแบบและใช้งานมาก่อน และได้ถูกนำมาติดตั้งใช้งานกับเจ้า range rover classic รุ่นปี ค.ศ.1993 เจ้าอุปกรณ์ชุดนี้ทั้งชุดนั้นท่านทราบไม๊ล่ะครับว่าเขาๆนำไปไว้ที่ไหน เดี๋ยวขอพักไว้แค่นี้ก่อนนะครัยถึงที่หมายแล้ว ขอไปทำงานก่อนแล้วจะมาเขียนตอนะครับ ขอบคุณที่ติดตาม
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
phutarn
Webmaster Angel eye
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 2226


Angel eye


« ตอบ #62 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 11:26:09 AM »

รายงานสดบนเบาะหลังL322มันสุดยอดไปเลยพี่ๆๆๆๆๆ นั่งๆระวังหลับนะถุงลมมันนุ่มสุดๆ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

ภูเขา ธารน้ำ
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #63 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 12:15:36 PM »

กลับมาจากนครศรีธรรมราช ถึงหาดใหญ่แล้วครับ และวันนี้ก็ยังคงรายงานสดอยู่ที่ take care car wash หาดใหญ่ครับ วันนี้นัดกับน้องเอกเอาไว้ว่าจะเอาเจ้าทองดำเข้าเคลือบแก้วอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคลือบมาแล้วหนึ่งครั้ง แต่ด้วยความที่อยากลองน้ำยาตัวใหม่ที่ใช้เคลือบเครื่องบิน อยากลองดูว่าน้ำยาตัวนี้จะดีกว่าตัวเดิมหรือไม่ ตอนนี้ที่รายงานอยู่ เจ้าทองดำกำลังถูกสปาอยู่ เดี๋ยวกลับไปถึงกรุงเทพแล้วจะนำรูปมาลงให้กับพวกเราได้ดูกันครับ พี่เองว่าง ๆ ไม่ได้ทำอะไรก็เลยขอเข้ามาเขียนต่อจากเมื่อวานนี้ที่เขียนถึงเรื่องปั๊มลมค้างเอาไว้ ก็อย่างที่บอกล่ะครับว่าเจ้ากล่องวาล์วบล็อคในครั้งแรกที่ใส่เข้ามาในเจ้า range classic นั้น ได้ถูกนำไปติดตั้งไว้ที่ chassis ด้านล่างใต้คนขับ ในนั้นจะมีครบเลยครับ มีทั้ง valve block drive pack air compressor อยู่ในกล่องเหล็กอย่างดีครับ ข้อดีหรือครับ เนื่องจากอยู่ที่ด้านล่างมีลมผ่านตลอด จึงทำให้เจ้าวาล์วบล็อคชุดนี้มีอายุที่ยืนยาวขึ้นมาก ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก ในเมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียตามมา นั่นก็คือว่าเจ้า Range classic ตัวนี้เป็นรถ offroad เมื่อถึงเวลาที่ลุยกันจริง ๆ แล้ว ปรากฎว่าเจ้าวาล์วบล็อคตัวนี้กลับสร้างปัญหาอย่างใหญ่หลวงในการที่จะต้องลุยน่้ำ เพราะเมื่อระบบไฟฟ้าถูกน้ำก็จะไม่ทำงาน ดังนั้นด้วยปัญหาตัวนี้เองจึงได้นำเจ้าวาล์วบล็อคตัวนี้ไปไว้ในห้องเครื่องยนต์ในรุ่นต่อมาก็คือเจ้านังอ้วนของเรานี่เอง การนำวาล์วบล็อคเข้าไปไว้ในห้องเครื่องยนต์ที่พี่ปัญจะได้ออกตัวไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าถูกต้องแล้วก็เพราะว่า ในยุโรปเองสภสพภูมิอาลกาศนั้นหนาวเย็นเป็นส่วนใหญ่ อุณหภูมิในห้องเครื่องยนต์นั้นไม่สูงมากนักจึงไม่มีปัญหาตามมา แต่ทำไมวาล์วบล็อคในเมืองไทยภึงได้มีปัญหามากมายนัก ความร้อนไงล่ะครับที่ทำลายชุดวาล์วบล็อคของเรา เดี๋ยว o ring รั่ว เดี๋ยว drive pack เสีย เดี๋ยวปั๊มลมพัง สาเหตุหลักก็มาจากความร้อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคับ ก็อย่างที่บ กล่ะครับว่าภายในห้องเครื่องของนังอ้วนนั้นร้อนมาก ๆ อุปกรณ์หลาย ๆ ตัวในห้องเครื่องยนต์เองหลาย ๆ ตัวนั้นก็มีอายุการใช้งานสั้นเหมือนกัน เช่น หม้อน้ำ กล่องฟิวส์  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2012, 12:36:39 PM โดย คนรักษ์เร้นจ์ » บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #64 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 12:34:25 PM »

เนื่องจากรถในเมืองไทยนั้นเป็น UK spec ทุกคัน ถามต่อไปว่าทำไมถึงไม่นำรถ spec ตะวันออกกลางมาขายในเมืองไทย อันนี้เองผผู้เขียนเองก็ไม่สามารถหาคำตอบที่แท้จริงให้ได้ครับต้องขออภัย มาว่าเรื่องของเราต่อกันดีกว่าครับ ในเมื่อวาล์วบล็อคที่ใส่ไว้หน้าห้องเครื่องยนต์นั้นมีปัญหา เจ้าI322 นี่เองที่ได้พัฒนาระบบ air suspension ออกมาอย่างมีเสถียรภาพมากกว่าทุก ๆ รุ่น ที่ได้ใส่ระบบถุงลมมา ตัดเจ้าวาล์วบล็อคตัวเจ้าปัญหาออกไป drive pack ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แล้ว ยังคงเหลือเอาไว้ที่จำเป็นจริง ๆ ก็เจ้าปั๊มลมกับเจ้าตัว height sensor ก็พอแล้ว ก็คงจะต่้องวกกลับไปที่ปั๊มลมกันก่อนเพราะว่ายิ่งเขียนยิ่งสนุก จะลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เอาไว้มีโอกาสเราคงได้คุยกันแบบจัดเต็มในระบบ airsuspension กันไปเลย
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #65 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 01:21:16 PM »

ถ้าจะพูดว่าไม่มีวาล์วบล็อคก็เดี๋ยวจะบอกว่าระบบถุงลมถ้าไม่มีวาล์วบล็อคแล้วจะทำงานได้อย่างไร มันมีวาล์วครับเป็น solinoid valve 5 way ครับ และในระบบเองแทบจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเจ้าวาล์วตัวนี้มากมายเลย อย่างที่ว่าล่ะครับยิ่งคุยไปก็ไปเรื่อย เรามาคุยถึงปั๊มลมของเรากันก่อนดีกว่าครับ เจ้าปั๊มลมตัวนี้จะถูกบรรจุอยู่ในกล่องเหล็ก รงกลม การทำงานจะเงียบมาก ถ้าเป็นตัวปั็มลมที่ใส่อยู่ในนังอ้วนนั้น สาเหตุหลัก ๆ ที่เสียก็เนื่องมาจากการทำงานหนัก ความร้อนสะสม การทำงานที่ถี่มาก สาเหตุที่ทำงานถี่ก็เนื่องมาจากตัววาล์วบล็อคเองที่เวลารั่วหรือเสียก็มีการถอดออกมาซ่อมแซม การถอดออกมาซ่อมแซมนี่เองที่ทำให้บางครั้งมีการรั่วเกิดขึ้น มีคำถามกลับมาว่าก็แค่เปลี่ยน o ring เอง ใช่ครับสามารถเปลี่ยน o ring ได้ แต่การรั่วนั้นโดยปกติแล้วจะรั่วที่ตัววาล์วครับเปลี่ยน o ring ก็ไม่หายรั่วหรอกครับ ทางที่ดีแล้วเมื่อวาล์วรั่วควรเปลี่ยนใหม่ดีที่สุดครับ เพราะอะไรหรือครับ เพราะใน manual ได้ระบุเอาไว้ว่า non serviceable ครับ ถ้าสังเกตุดี ๆแล้ว เรายิ่งซ่อมวาล์วบล็อคนานเท่าไรปั๊มลมก็จะเริ่มอ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ เท่านั้นครับ ถ้าซ่อมวาล์วบล็อคแล้วปั๊มลมทำงานทุก ๆ นาทีไม่หยุด ก็คงต้องเปลี่ยนปั๊มลมอีกตัวนึงแน่นอนครับ แวะไปหานังอ้วนมาหน่อยหนึ่ง ส่วนของl322 นั้นจะแตกต่างโดยสิ้นเชิงปั๊มลมจะทำงานเฉพาะเวลาที่เรากดเปลี่ยนตำแหน่งความสูงเท่านั้นครับ แล้วหลังจากนั้นจะไม่ทำงานอีกเลยจนกว่าเราจะกดเปลี่ยนตำแหน่งความสูงอีก ดังนั้นปั๊มลมในรุนนี้จะมีความทนทานมากกว่าของนังอ้วนมากครับ แรงดันที่ในระบบ 11.7-13.7bar ครับ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
T_T
Global Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 554



« ตอบ #66 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 09:47:12 PM »

แหม อยากไปเป็นคนขับรถให้จังเลยครับ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #67 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 09:22:52 AM »

อยากให้มาด้วยกันครับ วันเสาร์นี้มีงาน  harley ที่กระบี่กะไว้ว่าจะแวะก่อนกลับขึ้นไปครับ เดี๋ยวเก็บรูปมาฝากนะครับ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #68 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 11:03:11 AM »

วันนี้ยังคงนั่งรายงานอยู่ที่หาดใหญ่ครับ ก็คงจะได้รับทราบข้อมูลของปั๊มลมกันไปแล้ว สรุปออกมาแล้วก็คงจะดีกว่านังอ้วนในหลาย ๆ ด้าน ส่วนที่ดีมาก ๆ เลยก็คือการนำไปไว้ในห้องโดยสาร ทำให้ไม่เกิดความร้อนมากนักขณะทำงาน และด้วยตัวของปั๊มลมที่มีขนาดใหญ่กว่าทำให้ใช้เวลาทำงานน้อยกว่าซึ่งจะทำให้ยืดอายุของปัีมลมออกไปได้นานครับ       
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #69 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 11:11:51 AM »

ก็มีคำถามมาอีกว่าถ้านำเจ้า l322 ไปทำการติดตั้งแก๊ส lpg ถัง donut แล้วไม่ต้องย้ายเจ้าปั๊มลมตัวนี้จะได้หรือไม่ ขอตอบเลยว่าไม่ได้แน่นอนครับ เพราะเจ้าปั๊มลมตัวนี้ค่อนข้างใหญ่แถมยังวางเอาไว้ซะตรงกลางที่เก็บยางอะหลั่ยอีก ทำให้ไม่ยมีพื้นที่ที่จะหลบปั๊มตัวนี้ครับ ต้องย้ายขึ้นไปไว้ด้านข้างทางขวามือเท่านั้น ส่วนถังแก๊สนั้นจะใช้เป็นแบบวาล์วนอกหรือแบบวาล์วในก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
planet
Newbie
*
กระทู้: 15


« ตอบ #70 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 01:10:31 PM »

ติดตามรออ่านอยู่ครับ....ทริปนี้มีประโยชน์มากมาย.... ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
T_T
Global Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 554



« ตอบ #71 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 09:11:57 PM »

ก็มีคำถามมาอีกว่าถ้านำเจ้า l322 ไปทำการติดตั้งแก๊ส lpg ถัง donut แล้วไม่ต้องย้ายเจ้าปั๊มลมตัวนี้จะได้หรือไม่ ขอตอบเลยว่าไม่ได้แน่นอนครับ เพราะเจ้าปั๊มลมตัวนี้ค่อนข้างใหญ่แถมยังวางเอาไว้ซะตรงกลางที่เก็บยางอะหลั่ยอีก ทำให้ไม่ยมีพื้นที่ที่จะหลบปั๊มตัวนี้ครับ ต้องย้ายขึ้นไปไว้ด้านข้างทางขวามือเท่านั้น ส่วนถังแก๊สนั้นจะใช้เป็นแบบวาล์วนอกหรือแบบวาล์วในก็ได้ครับ
อ้าวแล้วไว้ข้างซ้าย หรือในสุดไม่ได้รึพี่   แล้วต้องเดินสายอะไรใหม่รึไม่ครับ 
หว้า กะว่าจายืมคุณทองดำไปออกงานสักหน่อย  รีบกลับมาเร็วๆนะพี่
บันทึกการเข้า
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #72 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 09:06:42 PM »

กลับขึ้นมาแล้วครับ ตอนนี้กำลังออกจากหาดใหญ่ไปนอนที่กระบี่คืนนี้กว่าจะถึงคงจะดึก เห็นคุณโตถามมาเรื่องปั๊มลมว่าจะวางเาไว้ด้านซ้ายหรือด้านในจะได้หรือไม่ ขอตอบเลยก็แล้วกันนะครับว่าได้ครับแต่มีข้อจำกัดก็คือจะต้องมีการต่อท่อลมครับ ทางที่ฝดีแล้วอย่าไปตัดต่อมันจะดีที่สุดครับ อย่างที่เราทราบกันแล้วว่าภายในระบบมีแรงดันตั้ง 13.7 bar เมื่อต่อแล้วอาจจะสร้างปัญหาตามมาก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #73 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 09:44:40 PM »

ขอบคุณเพือน ๆ สมาชิกที่รออ่านข้อความของคนรักษ์เร้นจ์อยู่ ช่วงนี้พิมพ์ผิดไปบ้างต้องขอพระอภัยมณีครับ เพราะนั่งรายงานอยู่เบาะหลังฃคุณทองดำ วันนี้คุณทองดำเงามากเลยครับออกจากห้องสปามาตอนหกโมงเย็นก็เดินทางกันเลยครับเอ้ามาเข้าเรื่องดีกว่าครับ ปั๊มลมก็มรู้จักกันไปแล้วมีน้องสมาชิกถามมาว่ารุ่นนี้เวลาจะยกรถนั้นจะต้องทำอย่างไร ในเมื่อถามมาก็คงต้องตอบ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในห้องโดยสาร ก็ขอลงไปใต้ท้องกันหน่อยนึงครับ น้อง ๆ อยากรู้เรื่องการยกรถ ก็มาว่ากันดลยครับ อย่างที่เรารู้กันแล้วว่าเจ้าL322 ตัวนี้นั้นช่วงล่างเป็นระบบอิสระทั้งสี่ล้อ ดังนั้นจุดที่จะทำการยกตัวรถไ้ด้นั้นด้านหน้าก็จะอยู่ที่ชายบันไดหลังล้อหน้าทั้งสองด้าน ส่วนล้อหลังนั้นก็อยู่ที่ชายบันไดหน้าล้อหลัง ไม่รู้ว่าจะอ่านแล้วงงหรือเปล่า เอาง่าย ๆ ก็อยู่ที่ใต้เบาะนั่งหน้ากับหลังนั่นแหละครับ ส่วนตัวแม่แรงนั้นวางอยู่ด้ายนในของหลุมยางอะหลั่ยครับ ตัวแม่แรงนั้นได้ถูกเปลี่ยนจาก แม่แรง hydraulic มาเป็นแม่แรงแบบเกลียวครับ ก็ง่าย ๆ ครับ ยกขึ้นได้เลยไม่ต้องกลัวถุงลมหลุดครับ ผิดกับนังอ้วนที่ต้องขึ้นที่คานล้อครับ และแม่แรงที่ใช้ก็จะเป็นแบบHydraulic ครับ คราวนี้คงจะเชื่อแล้วนะครับว่าเจ้า L322นั้น น้ำหนักตัวน้อยกว่านังอ้วนใช่ไม๊ครับ เพราะถ้าสำหรับพี่แล้วคิดว่าแม่แรงที่ใชยกรถนั้นก็คงจะบอกถึงน้ำหนักตัวรถได้ครับ สำหรับน๊อตล้อของl322 นั้น ถ้าเป็นล้อstandard ขอบ 19" จะใช้ประแจถอดล้อ เบอร์ 22 mm ครับ น๊อตล้อจะเป็นสีดำ มีทั้งหมด 5 ตัว/ล้อและในแต่ละล้อจะมี safety nut ล้อละตัว สิ่งที่ควรระวังก็เจ้าตัว safety nut หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเจ้านัทกันขโมยครับ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
คนรักษ์เร้นจ์
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 553


รู้จริง..เรื่องเร้นจ์โรเวอร์


« ตอบ #74 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 10:09:29 PM »

เจ้านัทกันขโมยตัวนี้ต้องระวังให้ดีนะครับเพราะทำล้อแม็กพัง าหลายคันแล้วครับ เพราะอะไรหรือครับ เพราะตอนที่ยางไม่มีปัญหา ก็ไม้ต้องการที่จะถอดล้อครับ พอยางมีปัญหาก็ต้องถอดล้อครับ  นัทล้อสี่ตัวถอดออกได้ครับติดที่นัทกันขโมยตัวนี้ตัวเดียวครับที่ถอดไม่ออก เพราะว่าถ้สจะถอดนัทตัวนี่ต้องใช้ตัวถอดพิเศษที่อยู่ในกล่องเก็บเครื่องมือท้ายรถในหลุมยางอะหลั่ยคนับ  ถ้าหาเจอก็ไม่เกิดปัญหาครับ แต่ถ้าไม่เจอเจ้าตัวนี้ล่ะก็งานเข้าครับ ถอดล้อไม่ได้ ก็ทำอะไรไม่ได้ครับ ผลสุดท้ายก็ต้องยอมให้้แม็กชำรุดครับ ดังนั้นถ้าไม่อยากพบเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วล่ะก็ ควรตรวจสอบดูว่านัทล้อของเรายังมีนัทกันขโมยอยู่หรือไม่ ถ้ายังมีนัทกันขโมยอยู่ก็ควรตรวจเช็คว่าเจ้าตัวถอดนัทกันขโมยตัวนี้ยังอยู่ที่ท้ายรถมากับเราด้วยหรือไม่ ก่อนที่ท่านจะตกอยู่ในนาทีฉุกเฉินครับ บางท่านคิดว่าก็วิ่งเข้าไยืมที่ศูนย์บริการมาสิ ก็คงจะได้ครับถ้าเผิญว่า code เกิดตรงกันพอดีก็ใช้ได้ครับ แต่ถ้าโชคร้ายรถทัเ้งศูนย์บริการที่มีจอดอยู่ไม่มีคันไหนมี code ตรงกับเราเลยก็ง่นเข้าเลยครับ เพราะว่าเจ้านัทตัวนี้ต้องสั่งจาก uk  เท่านั้นครับ ดังนั้นต้องควรระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษครับ
บันทึกการเข้า

พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้...และ...ให้
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Hosting by THAISITE.net Valid XHTML 1.0! Valid CSS!